วิธีไหว้ขอพรวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
วันที่ 6 เมษายนของทุกปีเป็นวันสำคัญของชาติไทยคือ วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีความสำคัญเนื่องจากเป็นวันที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี และทรงสถาปณากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ถัดจากกรุงธนบุรี จึงได้ประกาศให้วันที่ 6 เมษายน เป็นวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือ วันจักรี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ความเชื่อในการขอพรพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ความเชื่อในการสักการะพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ เชื่อว่าการขอพรพระองค์ เหมาะกับการ “ขอพรให้มีความเป็นเลิศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานด้านการปกครอง กิจการงานที่เกี่ยวข้องกับราชการให้เจริญรุ่งเรือง รวมถึงขอพรให้ครอบครัวเป็นปึกแผ่น” สมดังที่พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มสร้างบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นในอดีต รวมถึงพระราชกรณียกิจสำคัญอีกประการคือทรงเป็นผู้ตรากฎหมาย “ตราสามดวง” เพื่อใช้บริหารบ้านเมืองและถือเป็นกฎหมายฉบับแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่กลายมาเป็นรากฐานของการปกครองไทยมาจนถึงทุกวันนี้
สถานที่แนะนำกราบขอพร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่น่าสนใจ
1. พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพฯ
สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อสร้างเป็นพระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์เสด็จประทับนั่งเหนือพระราชบัลลังก์ พระหัตถ์ทรงแตะพระแสงดาบที่วางทอดอยู่เหนือพระเพลา ปั้นและหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์โดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร พระบรมรูปผินพระพักตร์มาทางถนนตรีเพชร เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับขอพร รวมถึงเป็นจุดที่ทางราชการและนายกรัฐมนตรีของไทยจะนำพานพุ่มดอกไม้มาสักการะที่พระบรมรูปแห่งนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นประจำทุกปี
2. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ
ภายในวัดแห่งนี้มีหอพระไตรปิฎกที่เก่าแก่สวยงาม มีความสำคัญเนื่องจากเคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ เมื่อครั้งทรงรับราชการในสมัยกรุงธนบุรี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทำการรื้อถอนมาถวายวัดระฆังโฆสิตารามฯ หลังจากที่ทรงขึ้นครองราชสมบัติแล้ว
3. พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๑ ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้ก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก พระบรมราชานุสาวรีย์มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ฉลองพระองค์แบบนักรบตามขัตติยราชประเพณีประทับบนช้างศึก ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและที่เคารพสักการะอย่างมากของชาวบุรีรัมย์ นิยมขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แคล้วคลาดปลอดภัย รวมถึงขอพรเรื่องการเลื่อนขั้นในงานราชการและการสอบไล่ต่างๆ ให้สมปรารถนา
วิธีการไหว้ และ บทสวดขอพร
การไหว้ขอพรให้จุดธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโม ชะยันโต อะระหัง จุติ 9 จบ
นะโม จักรีมหาราชา นะมะพะทะ 3 จบ
ของไหว้ตามความเชื่อ
สักการะด้วยพานพุ่มดอกไม้ เพื่อระลึกถึงพระองค์เนื่องในวันจักรี ส่วนของไหว้ที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์นิยมนำมาถวาย หรือแก้บนที่พระบรมราชานุสาวรีย์ในจังหวัด คือรูปปั้นช้าง เนื่องจากพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ประทับนั่งบนหลังช้างขณะที่ยกทัพไปปราบอริราชศัตรู
การสักการะขอพรปฐมบรมกษัตริย์แห่งชาติไทย ถือเป็นหนึ่งในมิ่งมงคลชีวิตที่ควรหาโอกาสไปไหว้สักครั้ง ไม่ต้องรอให้ถึงเฉพาะในวันจักรี สามารถไปสักการะขอพรได้ทุกเมื่อเพื่อเป็นกำลังแรงใจและสิริมงคลให้กับตัวเอง
