วิธีขับรถขึ้นเขา-ลงเขาปลอดภัย ด้วยเกียร์ออโต้ เกียร์ธรรมดา

วิธีขับรถขึ้นเขา ลงเขาให้ปลอดภัย รถเกียร์ออโต้ รถเกียร์ธรรมดา

สำหรับใครที่กำลังวางแผนขับรถ เที่ยวภูเขา เที่ยวดอย หรือเที่ยวผาต่างๆ คงต้องขับรถทั้งขึ้นเขาลงเขา แล้วเราต้องทำยังไงบ้างละ วันนี้ TPIS มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาเพิ่มความปลอดภัยให้ ทั้งรถเกียร์ธรรมดา(เกียร์กระปุก) และเกียร์ออโต้ เรามาเริ่มกันเลยแล้วกัน

ความเร็วในการขับรถยนต์ขึ้นเขา

ความเร็วในการขับรถขึ้นเขา – ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเขา ขึ้นดอย ที่ถนนมีความชันมากๆ เราต้องรักษาความเร็วของรถไว้ไม่ให้ต่ำกว่า 50 – 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เร็วเกินไปจนแหกโค้ง หรือช้าจนรถขึ้นไม่ไหวไหลไปชนคันข้างหลัง ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาต้องระวังเรื่องคลัทซ์เป็นพิเศษเพราะอาจจะทำให้รถไหลเวลาเปลี่ยนเกียร์ได้

ความเร็วในการขับรถยนต์ลงเขา

ไม่ว่าจะเป็นรถเกียร์ออโต้หรือรถเกียร์ธรรมดาก็ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการขับรถลงเขา เพราะนอกจากจะช่วยให้เราปลอดภัยจากอุบัติเหตุรถชนแล้ว ยังช่วยให้ผ้าเบรคไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย

หากเราไม่มั่นใจในการควบคุมความเร็วรถ เราสามารถใช้เกียร์เป็นตัวช่วยได้ โดยใช้เกียร์ 1 หรือ 2 เพื่อเพิ่มแรงฉุดรถ หรือถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ให้ใช้เป็นเกียร์ S หรือ L ก็จะช่วยให้รถไม่ไหลเพิ่มแรงฉุดได้เยอะ ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงลองอ่านกันดูครับ

ใช้เกียร์ต่ำขับรถขึ้นเขา ลงเขา

เวลากำลังขับรถลงเขาหากเป็นเกียร์ธรรมดาควรใช้เกียร์ต่ำเพียงแค่เกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้น ห้ามใช้เกียร์ว่างในการลงเขาเด็ดขาด รถเกียร์ออโต้ก็เช่นกัน ไม่ควรใช้ทั้งเกียร์ N และ D ในการลงเขาแต่ควรใช้เกียร์ S หรือ L เพื่อเพิ่มรอบแรงฉุดของเครื่องยนต์จะเหมาะกับการขับรถลงเขามากกว่า

มิเช่นนั้นรถอาจจะมีแรงฉุดจากเครื่องยนต์ไม่มากพอ และทำให้รถไหลลงเขาแรงเกินไปด้วยน้ำหนักของรถ และเสียการควบคุมจนเกิดอุบัติเหตุได้

รถเกียร์ธรรมดาระวังเมื่อยเหยียบคลัทช์

เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์และล้อผ่านทางเกียร์ หากเราเหยียบคลัทซ์ขณะที่ขับรถขึ้นเขา หรือ ลงเขา เพื่อเปลี่ยนเกียร์ เครื่องจะเสียแรงฉุดแม้จะเป็นระยะสั้นๆ รถก็อาจจะไหลได้ถ้าขับไม่ชำนาญมากพอ และไม่ควรเอาเท้าวางบนคลัทช์ขณะขับรถขึ้นเขา เพราะถ้าเราเกิดเมื่อยหรือเหยียบไปด้วยความเคยชินก็อาจเกิดอุบัติเหตุจากรถไหลได้ เช่นกัน

ใช้เบรคมือเป็นตัวช่วยเวลาขับรถขึ้นเขา ลงเขา

ถือเป็นตัวช่วยในการขึ้นเขาลงเขา หากต้องจอดค้างอยู่บนเนินนานๆ จะช่วยให้เราได้พักขา และช่วยให้เบรคไม่ต้องทำงานหนักจนเกิดความร้อนมากเกินไปอีกด้วย

ขับรถขึ้นเขา ลงเขาไม่ควรเหยียบเบรคแช่

หากเราขับรถลงเขาเป็นเวลานานๆ ผ้าเบรคจะสะสมความร้อนจากการเบรคมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นเราควรจะขับแบบค่อยๆ แตะเบรคเป็นระยะๆ ไม่ควรเหยียบเบรคแบบแช่นานๆ เพราะผ้าเบรคที่มีความร้อนสะสมนานๆ อาจเกิดการผ้าเบรคไหม้ และเบรคไม่อยู่จนเกิดอุบัติเหตุได้

แซงให้ปลอดภัยเวลาขับรถขึ้นเขา ลงเขา

โดยปกติการแซงบนทางลาดชันเป็นเรื่องที่อันตราย และไม่แนะนำให้ทำหากไม่มีเหตุจำเป็น แต่ถ้ารถคันหน้าเกิดจอดเสียอยู่ หรือกำลังลดความเร็วเพื่อเข้าข้างทาง และเราจำเป็นต้องแซงจริงๆ ให้เราเปิดไฟเลี้ยวให้สัญญาณรถคันอื่นก่อนจึงค่อยแซง แต่อย่างไรก็ตามหากจุดที่เราต้องการแซงนั้นเป็นทางโค้ง หรือเส้นทึบให้เราขับให้ผ่านจุดนั้นไปสักระยะนุงจึงค่อยเร่งแซงขึ้นไป

การขับรถขึ้นเขาลงเขานั้นอันตรายกว่าขับรถตามท้องถนนทั่วไปมาก ทั้งเส้นทางโค้ง ถนนแคบ และความลาดชัน เราจึงต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้อย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์เผื่อไว้ด้วยนะครับ เพราะจะได้มีประกันรถยนต์ไว้แบ่งเบาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย ด้วยความห่วงใยจากTPIS หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสามารถ ติดต่อได้ที่ www.tripetchinsurance.com หรือ โทร. 02-792-2160 ครบจบในที่เดียว

สนใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ กรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้เลย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ TPIS พร้อมติดต่อกลับทันที!

TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์
เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ ทั้งประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันมะเร็ง และประกันโรคร้ายแรง แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันภัยกับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

*ผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ