กลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ คืออะไร? มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันอย่างไร

กลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ คืออะไร? มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันอย่างไร-1

หากพูดถึงการทำประกันรถยนต์ แน่นอนว่าทุกวันนี้เจ้าของรถทุกคันต่างก็รู้ว่านี่คือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะประกันภาคสมัครใจที่ช่วยให้ได้รับความคุ้มครองมากขึ้นจากประกันภาคบังคับหรือพรบ. และหากมีเพื่อนที่ใช้รถยนต์คนละรุ่นกับเราแต่ทำประกันแบบเดียวกัน (เช่น ประกันชั้น 1 เหมือนกัน) เมื่อเจาะเรื่องเบี้ยประกันก็อาจจะพบว่าค่าเบี้ยต่างกัน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะการแบ่ง กลุ่มรถยนต์ ของบริษัทประกัน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันให้มากขึ้นครับ

การแบ่ง กลุ่มรถยนต์ ตามราคาและแหล่งผลิต

การแบ่งรถยนต์ออกเป็นกลุ่ม มีด้วยกันหลัก ๆ 2 ประเภท คือ แบ่งตามการใช้งานรถยนต์ และ แบ่งตามประเภทรถ ซึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมและเข้าใจง่ายคือการแบ่งตามประเภทรถ โดยแบ่งได้ 5 กลุ่ม ตามราคาและแหล่งที่มาของรถ โดยรถแต่ละกลุ่มมีรายละเอียดดังนี้ 

1. รถหรูนำเข้า

เช่น Porsche หรือรถสปอร์ตนำเข้ารุ่นอื่น ๆ รถประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป มีค่าอะไหล่และค่าซ่อมบำรุงสูงมาก อะไหล่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และส่วนใหญ่จะต้องซ่อมศูนย์เท่านั้น บริษัทประกันจึงจัดรถกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงและต้นทุนสูง ทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงที่สุด

กลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ คืออะไร? มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันอย่างไร-2

2. รถยุโรปประกอบในไทย

เช่น Mercedes-Benz หรือ BMW ที่มีโรงงานประกอบในประเทศไทย สำหรับรถประเภทนี้ แม้ว่าค่าอะไหล่และการซ่อมแซมอาจถูกกว่ารถหรูนำเข้าแต่ก็ยังถือว่าแพงกว่ารถเอเชีย อีกทั้งด้วยความที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้หลายครั้งยังคงต้องนำเข้าซ่อมศูนย์เท่านั้น ทำให้ค่าเบี้ยยังคงแพงกว่ารถจากเอเชีย

กลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ คืออะไร? มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันอย่างไร-4

3. รถเอเชียขนาดใหญ่

เช่น Toyota Camry , Honda Accord , Nissan Teana หรือรถ SUV และรถกระบะระดับที่ราคาเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่จะนับรถที่มีเครื่องขนาด 1800 CC ขึ้นไป รถประเภทนี้ค่าอะไหล่แพงกว่ารถเล็กจึงทำให้ค่าเบี้ยสูงกว่าตามไปด้วย แต่ก็ถือว่าถูกกว่ารถยุโรป

4. รถเอเชียขนาดกลาง

จัดเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตัวอย่างรถประเภทนี้เช่น Toyota Altis , Honda Civic , Mazda 3 ด้วยเหตุที่รถกลุ่มนี้มีการใช้งานแพร่หลาย จึงทำให้ค่าอะไหล่ไม่สูงเกินไป หาสถานที่ซ่อมได้ง่าย ศูนย์บริการมีทั่วประเทศ หรือจะซ่อมอู่ก็ทำได้ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ค่าเบี้ยประกันของรถยนต์ประเภทนี้อยู่ในระดับกลางที่เจ้าของรถทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

5. รถยนต์เอเชียขนาดเล็ก

เช่น Toyota Yaris , Honda Jazz , Mitsubishi Mirage , Nissan Almera จัดเป็นรถที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย เครื่องยนต์ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน อะไหล่หาง่าย จึงเป็น กลุ่มรถยนต์ ที่มีค่าเบี้ยประกันถูกที่สุด

การแบ่งรถยนต์ตามความเสี่ยงการใช้งาน

นอกจาก กลุ่มรถยนต์ ตามราคาและประเภทรถแล้ว ยังมีการแบ่งรถยนต์ตามการใช้งานรถ เพราะการใช้งานที่ต่างกันย่อมนำไปสู่ความเสี่ยงที่ต่างกัน ต่อไปนี้คือประเภทที่พบได้บ่อย 

• รถส่วนบุคคล (Private Use) ใช้งานทั่วไป เช่น ขับไปทำงาน เดินทางท่องเที่ยว ถือว่ามีความเสี่ยงไม่สูงมาก ค่าเบี้ยประกันจึงเชื่อมโยงกับประเภทรถ 5 กลุ่มหลัก

• รถเชิงพาณิชย์ (Commercial Use) ใช้เพื่อการขนส่งสินค้าตลอดจนบริการสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถส่งของ รถตู้โดยสาร รถประเภทนี้ถือว่ามีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าเพราะใช้งานถี่และหนักกว่า จึงทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นตามไปด้วย

กลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ คืออะไร? มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันอย่างไร-3

• รถเช่า (Rental Cars) จัดเป็นรถยนต์กลุ่มที่บริษัทประกันมองว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะเปลี่ยนผู้ขับบ่อย ทำให้ค่าเบี้ยสูงที่สุดในกลุ่มการใช้งาน

เงื่อนไขอื่น ๆ ที่มีผลกับเบี้ยประกัน

• ประเภทประกัน ประกันชั้น 1 ค่าเบี้ยสูงสุดเพราะคุ้มครองรอบด้าน ชั้น 2+ หรือ 3+ ถูกลง แต่ความคุ้มครองน้อยกว่า ส่วนประกันชั้น 3 ถูกที่สุดเพราะคุ้มครองเพียงบุคคลภายนอก

• ปีที่จดทะเบียนรถ ที่เห็นได้ชัดคือรถใหม่จะมีค่าเบี้ยสูงเพราะมูลค่ารถสูง ส่วนรถเก่า ค่าเบี้ยถูกลง และหากอายุเกินกำหนดก็จะไม่สามารถทำประกันชั้น 1 ได้

• ประวัติการเคลม (No Claim Bonus) หากเจ้าของรถไม่มีการเคลมติดต่อกันหลายปีจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ย

• อาชีพและอายุผู้ขับขี่ บางบริษัทพิจารณาอาชีพหรืออายุ เช่น ผู้ขับขี่อายุน้อยอาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง หรือคนที่ต้องขับรถเป็นประจำในการทำงานอาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า


แม้ว่าค่าเบี้ยประกันจะต่างกันด้วยหลายปัจจัย โดยมี กลุ่มรถยนต์ เป็นปัจจัยหลัก แต่การทำประกันภาคสมัครใจเอาไว้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่ามากกว่าการไม่ทำ เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้ทุกเวลา บางครั้งเมื่อเกิดแล้วค่าเสียหายก็สูงมากทั้งค่าซ่อมรถและค่าชดเชยต่อคู่กรณี หากมีประกันเอาไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหา เพราะประกันจะเข้ามาจัดการทุกอย่างให้เราตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ