ข้อดี-ข้อเสียของการผ่อนจ่ายประกันรถยนต์

ในสภาวะที่ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การวางแผนทางการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญกับทุกครัวเรือน โดยเฉพาะท่านที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ไม่เพียงแต่มีภาระในเรื่องของค่างวดประจำเดือน(กรณีที่ยังผ่อนไม่หมด) , ค่าบำรุงรักษา , ค่าน้ำมัน , ค่า พ.ร.บ. และภาษีประจำปี และค่าประกันภัยรถยนต์รายปี ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรถใหม่ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี และยังต้องการความคุ้มครองสูงสุดอย่างประกันชั้น 1

การผ่อนจ่ายประกันรถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับเจ้าของรถ ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตในคราวเดียวและยังคงได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม การเลือกผ่อนจ่ายประกันรถยนต์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงข้อดี – ข้อเสียของการผ่อนจ่ายประกันรถยนต์ พร้อมแนวทางรับมือหากไม่สามารถผ่อนต่อได้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบด้านและเหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตน

ข้อดีของการผ่อนจ่ายประกันรถยนต์

1. แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย 

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มักมีค่าเบี้ยรายปีที่สูงประมาณ 10,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ การจ่ายเงินก้อนเพียงครั้งเดียวถือว่าค่อนข้างหนัก เพราะนั่นหมายถึงรายรับทั้งเดือนของใครบางคน การผ่อนจ่ายประกันรถยนต์เป็นงวด ๆ จะช่วยให้เจ้าของรถไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว สามารถวางแผนการเงินและหมุนเวียนเงินสดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายรับประจำที่ไม่ต้องการให้ค่าใช้จ่ายเรื่องประกันรถยนต์กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน

2. ได้รับความคุ้มครองทันที

แม้จะยังผ่อนชำระไม่หมด แต่เมื่อเริ่มจ่ายงวดแรกแล้ว เจ้าของรถจะได้รับความคุ้มครองในทันทีตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หากเกิดอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเคลมได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผ่อนครบทุกงวด

3. มีตัวเลือกในการผ่อนหลากหลาย 

บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่เปิดโอกาสให้เลือกผ่อนชำระได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านบัตรเครดิต (บางกรณีอาจเป็น 0% ไม่มีดอกเบี้ย) หรือผ่อนด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือบัญชีธนาคารที่ร่วมรายการ ทั้งยังสามารถเลือกจำนวนงวดได้ตามความเหมาะสม เช่น 3 , 6 หรือ 10 เดือน เป็นต้น

4. เข้าถึงประกันชั้นดีได้ง่าย 

สำหรับคนรักรถจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าต่อให้รถมีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ก็ยังอยากที่จะให้รถของตนเองได้รับความคุ้มครองสูงสุด แม้ว่าประกันชั้นรองลงมาอย่างประกันชั้น 2+ หรือ 3+ จะให้ความคุ้มครองได้ดีไม่ยิ่งหย่อนกัน การมีระบบผ่อนจ่ายช่วยให้เจ้าของรถมีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกประกันที่คุ้มครองครอบคลุม

5. นำเงินไปใช้จ่ายด้านอื่นได้ 

การผ่อนประกันแบบไม่มีดอกเบี้ย ช่วยให้สามารถนำเงินก้อนที่เหลือไปใช้ลงทุน หรือจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ ได้ เช่น ค่าผ่อนรถ , ค่าบ้าน หรือธุรกิจส่วนตัว

ข้อเสียของการผ่อนจ่ายประกันรถยนต์

1. มีความเสี่ยงเรื่องดอกเบี้ยแฝง

แม้หลายบริษัทจะโฆษณาว่าผ่อน 0% แต่หากชำระล่าช้าหรือผิดนัด อาจมีค่าปรับหรือดอกเบี้ยแฝงตามมาได้ โดยเฉพาะกรณีผ่อนผ่านบัตรเครดิตหรือไฟแนนซ์

2. มีภาระผูกพันเป็นรายเดือน 

แม้ว่าการผ่อนประกันภัยรถยนต์จะช่วยไม่ให้เสียเงินก้อนในครั้งเดียว แต่ก็เป็นการสร้างภาระผูกพันในรายเดือน ทำให้อาจกระทบกับรายจ่ายประจำ หากบริหารการเงินอย่างไร้วินัยในการใช้จ่ายอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้

3. เสี่ยงถูกยกเลิกกรมธรรม์หากค้างชำระ 

หากผ่อนชำระไม่ครบหรือขาดส่งงวด ประกันจะหมดอายุหรือถูกยกเลิกทันที หากเกิดอุบัติเหตุในช่วงที่กรมธรรม์ขาด จะไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ ทำให้ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดเอง

4. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน 

สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรือมีภาระหนี้สินหลายอย่าง การผ่อนจ่ายประกันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการค้างชำระและสูญเสียความคุ้มครอง

5. มีข้อจำกัดในการเลือกบริษัทประกัน 

แม้ปัจจุบันจะมีบริษัทประกันหลายรายที่รองรับการผ่อนจ่าย แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทหรือทุกกรมธรรม์จะสามารถผ่อนได้ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกจำกัดกว่าการจ่ายเบี้ยเต็มจำนวน

หากผ่อนไม่ไหวและต้องค้างชำระค่างวดต้องทำอย่างไร

หากเกิดปัญหาทางการเงินจนไม่สามารถผ่อนจ่ายประกันรถยนต์ได้ตามกำหนด ควรดำเนินการดังนี้

  1. ติดต่อบริษัทประกันภัยหรือโบรกเกอร์ทันที เพื่อแจ้งปัญหาและขอคำแนะนำในการแก้ไข อาจมีทางเลือกในการปรับเปลี่ยนงวดการชำระ หรือขยายระยะเวลาผ่อนผัน
  2. ใช้สิทธิ์ระยะเวลาผ่อนผัน โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาผ่อนผันประมาณ 30 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ หากชำระภายในช่วงนี้ยังคงได้รับความคุ้มครองตามปกติ
  3. อย่าปล่อยให้กรมธรรม์ขาดนานเกินไป เพราะหากเลยระยะเวลาผ่อนผันแล้วไม่ได้ชำระ จะสูญเสียความคุ้มครองทันทีและหากต้องการต่อประกันใหม่ อาจต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด

การผ่อนจ่ายประกันรถยนต์เป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการบริหารจัดการเงินสดให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ได้รับความคุ้มครองทันที มีทางเลือกในการผ่อนหลากหลายช่องทาง แต่ก็มีข้อเสียที่ควรระวัง เช่น ความเสี่ยงเรื่องดอกเบี้ยแฝง การขาดวินัยทางการเงินอาจทำให้สูญเสียความคุ้มครองทันที หากผ่อนไม่ไหวควรรีบติดต่อบริษัทประกันเพื่อหาทางออก อย่าปล่อยให้กรมธรรม์ขาดนานเกินไป เพราะอาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด  

ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกผ่อนจ่ายประกันรถยนต์ ควรพิจารณาความสามารถในการชำระเงินของตนเอง วางแผนการเงินให้รอบคอบและเลือกช่องทางการผ่อนที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องและไม่เกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต

บทความ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ตอบหมดครบทุกประเด็น