ถ้าทำงานจนเหนื่อยล้า ใช้วันลาไปเที่ยวกัน

ถ้าทำงานจนเหนื่อยล้า ใช้วันลาไปเที่ยวกัน

วันนี้จะชวนทุกคนมาเปิดประสบการณ์สถานที่เที่ยวฮีลใจ เปลี่ยนบรรยากาศในการพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ที่เราสามารถขับรถไปได้ง่ายๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพ เหมาะสำหรับสายพักผ่อน นอนชิลๆ สายกิจกรรม หรือสายคอนเทนต์ จะมีที่พักหรือกิจกรรมไหนบ้างตามไปดูกันเลย

ท่องเรือ ชมวาฬ - สมุทรสาคร
ชมวาฬบรูด้า จังหวัดสมุทรสาคร

1. ท่องเรือ ชมวาฬ – สมุทรสาคร

เปิดประสบการณ์ท่องโลกของธรรมชาติ ด้วยการนั่งเรือชมวาฬที่จังหวัดสมุทรสาคร นั่งเรือชิลๆ มองดูทะเล สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติ รับอากาศบริสุทธิ์ ทุกคนรู้หรือไม่ว่า วาฬในประเทศไทยที่พบมากที่สุดคือ วาฬบรูด้า หรือ วาฬแกลบ ปัจจุบันมีประมาณ 60-80 ตัว อาศัยประจำถิ่นอยู่ในอ่าวไทยตอนบน หรือที่นิยมเรียกกันว่า อ่าวตัว ก เป็นทะเลนอกชายฝั่งของสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี หากใครสนใจกิจกรรมแนวธรรมชาติแบบนี้ แนะนำให้ไปช่วงต้นเดือนตุลาคม – ธันวาคม จะเป็นช่วงที่ท้องฟ้าสดใส ทัศนวิสัยดี ปากแม่น้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การนั่งเรือออกไปชมวาฬบรูด้าที่สุด เราสามารถออกแบบทริปได้ว่า ดูวาฬบรูด้าแบบ One Day Trip หรือดูวาฬบรูด้าแบบ 2 วัน 1 คืน

หากจะดูวาฬบรูด้าแบบ One Day Trip สามารถขับรถไปยังจุดขึ้นเรือได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ไปยังสมุทรสาคร หรือเดินทางไปยังบางตะบูน  สามารถติดต่อทัวร์ท้องถิ่นที่จัดบริการ ซึ่งมีทั้งแบบเหมาลำและจอยทริป หรือหากใครไม่รู้จะติดต่อที่ไหน สามารถติดต่อ “ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของท่าเรือของกลุ่มเกษตรกรทำประมงพันท้ายนรสิงห์ ที่จะมีทัวร์เรือชมวาฬจากชุมชนประจำอยู่ หรือใครที่อยากวางแผนดูวาฬบรูด้าแบบ 2 วัน 1 คืนนั้น สามารถไปเที่ยวชะอำ-หัวหินแบบค้างคืน แนะนำให้ขึ้นเรือที่แหลมผักเบี้ย หรือหาดเจ้าสำราญเพื่อชมวาฬ ส่วนรายละเอียดการนั่งเรือสามารถติดต่อร้านต่างๆ เพื่อสอบถามรายละเอียดได้เลย ซึ่งตลอดการเดินทาง จะมีวิทยากรมาเล่าเรื่องวาฬในอ่าวไทย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการชมวาฬ ระหว่างทางกัปตันจะแล่นเรืออย่างช้าๆ ใช้ความเร็วที่ไม่เกิน 7 นอตตามกฎสากล และจะชะลอความเร็วเมื่ออยู่ใกล้วาฬ เพื่อป้องกันไม่ให้วาฬบาดเจ็บและสร้างความรบกวนให้วาฬได้  พร้อมทั้งระบุพิกัดที่วาฬจะโผล่มาโชว์ตัวใกล้ๆ ให้ทุกคนได้เก็บภาพบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

นั่งรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แบบเช้าไป-เย็นกลับ
นั่งรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แบบเช้าไป-เย็นกลับ

2. รถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – ลพบุรี

พาคุณออกเดินทางไปกับบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางลมพัดเบาๆ ด้วยการนั่งรถไฟลอยน้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เป็นอีกจุดชมวิวที่น่าประทับใจ สำหรับใครที่ผ่านไปลพบุรี แนะนำให้แวะไปซักครั้ง เพราะที่นี่เป็นเส้นทางรถไฟเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระหว่างสถานีโคกสลุงกับสุรนารายณ์

เมื่อรถไฟค่อยๆ แล่นออกจากชานชาลา คุณจะได้สัมผัสความเงียบสงบของผืนน้ำที่กว้างใหญ่ ริมฟากทางมีทิวทัศน์ทุ่งนาและภูเขาไกลๆ อากาศในช่วงปลายฝนถึงต้นหนาวจะเย็นสบายเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่อยามเย็นที่แสงอาทิตย์อ่อนลงทำให้ผืนฟ้ากับน้ำสะท้อนประกายทองอำพัน ตลอดทางจะเห็นมุมมองที่ไม่ซ้ำกัน บางช่วงรถไฟแล่นผ่านระหว่างแนวต้นไม้สีเขียว ขนาบด้วยผืนน้ำใส บางช่วงกวาดสายตาไปเห็นสะพานและทุ่งนาเขียวขจีที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา ความเย็นของอากาศร่วมกับเสียงคลื่นน้ำและจังหวะหัวรถจักรเล็กๆ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายชวนให้ลืมความวุ่นวาย

เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม แนะนำไปช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งอากาศจะเย็นสบาย โดยเฉพาะบรรยากาศยามเย็นยิ่งทำให้วิวริมน้ำทอดสวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปหรือแค่พักสายตาเพื่อดื่มด่ำความสงบ ซึ่งจุดเด่นของเส้นทางนี้คือการได้เห็นทิวทัศน์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามมุมมองของรถไฟลอยน้ำ ไม่ใช่แค่การนั่งรถไฟ แต่เป็นการชมวิวที่เคลื่อนไหวเหมาะแก่การพักผ่อน มองวิวเพลินๆ

เกาะขาม ทะเลสวย หาดใส – ชลบุรี
เกาะขาม ทะเลสวย หาดใส สัตหีบ

3. เกาะขาม ทะเลสวย หาดใส – ชลบุรี

เกาะขามตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเกาะเล็กๆ ริมทะเลที่เชื่อมต่อกับฝั่งด้วยสะพานปูนยาวสู่ชายหาดทรายขาว น้ำทะเลใสสีฟ้าอ่อน ดึงดูดให้ผู้มาเยือนมาพักผ่อน สูดลมหายใจทะเลอย่างเต็มอิ่ม บรรยากาศบนเกาะอบอุ่น เหมาะกับทุกคนที่ต้องการหนีความวุ่นวายไปสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

หากคุณเบื่อจากการไปพัทยา หรือบางแสน แต่ต้องการที่จะหลีกหนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน เกาะขามก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้ทุกคนได้ลองไป เพราะทะเลใส หาดทรายขาว สามารถมองเห็นปะการังหลากสีและปลาน้อยใหญ่ ทิวทัศน์บนสะพานชมวิวและแนวหญ้าทะเลให้ความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่เหมาะกับการไปนอนพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้าสามารถปลีกวิเวกมาพักผ่อน หรือมาพร้อมกันเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก

หากใครสนใจที่นี่ช่วงเวลาที่แนะนำคือ ช่วงปลายฝนถึงต้นหนาว กันยายนถึงพฤศจิกายน เพราะอากาศเย็นสบาย น้ำทะเลใส ฟ้าใสเป็นพิเศษ ซึ่งวิธีการเดินทางไปเกาะขามก็ไม่ยาก สามารถขับรถไปยังท่าเรือแหลมฉบังหรือท่าเรือใกล้เคียงที่มีบริการเรือไปยังเกาะขาม การนั่งเรือหรือล่องเรือเร็ว ใช้เวลาประมาณ 15–40 นาที ขึ้นอยู่กับบริการและสภาพอากาศ โดยเกาะขามมีกิจกรรมให้ทำอย่างหลากหลาย อาทิ การเดินเล่นบนหาด พายเรือคายัค แวะชมปะการังใต้น้ำ หรือถ่ายภาพมุมสวยๆ บนสะพานชมวิว

จบไปแล้วกับตัวอย่างสถานที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากรุงเทพที่เราสามารถขับรถไปได้ง่ายๆ ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หากใครที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน หรือต้องการคลายความเหนื่อยล้า ลองไปเที่ยวตามที่เรานำมาแนะนำกันได้เลยนะคะ รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ดีๆ และได้เติมพลังกลับไปแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหากไปเที่ยวก็แล้ว ทำกิจกรรมต่างๆ ก็แล้ว แต่ความกังวลใจบางอย่างยังคงอยู่ โดยเฉพาะความกังวลในเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน แบบนี้อีซูซุลิสซิ่งช่วยได้ เพียง…คุณมีรถยนต์อีซูซุปลอดภาระ หรือกำลังผ่อนชำระอยู่กับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง สามารถนำรถยนต์มารีไฟแนนซ์เพื่อรับเงินก้อนได้ โดยอัตราดอกเบี้ยแท้จริง 5.79% – 14.91% ต่อปี* กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือแจ้งข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับตามด้านล่าง

สนใจรีไฟแนนซ์รถยนต์อีซูซุ แจ้งข้อมูลเพื่อให้บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ติดต่อกลับ

ในกรณีที่ท่านไม่ให้ความยินยอม บริษัทจะไม่สามารถเก็บ และเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จํากัด ได้ ท่านจะต้องติดต่อบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จํากัด ด้วยตนเอง