รู้ไว้ไม่ถูกจับ ใช้ไฟตัดหมอก เมื่อใดไม่ถูกตำรวจจับ

ไฟตัดหมอก ควรใช้เวลาใด รู้ไว้ไม่ถูกจับ

ไฟตัดหมอกถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญสำหรับรถยนต์เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยในสภาวะที่มีฝนและหมอกลงหนัก

แม้ว่าไฟตัดหมอก มีขนาดเล็กแต่ให้ความสว่างสูง กระจายแสงได้ดี ตำแหน่งการติดตั้งไฟตัดหมอกอยู่บริเวณใต้ดวงไฟหลักของรถยนต์ หรืออาจได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณด้านท้ายรถยนต์ในบางรุ่น

สำหรับบางท่านที่มีรถยนต์และติดตั้งไฟตัดหมอกแต่ยังไม่เคยใช้งาน หรือสงสัยว่า การใช้ไฟตัดหมอกควรใช้เวลาใด บทความนี้เรามีคำตอบให้ครับ

ไฟตัดหมอก คืออะไร?

ไฟตัดหมอก หรือ Fog Lamp เป็นอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการติดตั้งบนรถยนต์เพื่อช่วยสำหรับการมองเห็นในกรณีที่ทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดี

อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอก หรือฝนตก ไฟตัดหมอกช่วยในเรื่องของการลดการสะท้อนแสงที่เกิดขึ้นจากน้ำ

หรือละอองน้ำในอากาศที่ส่งผลให้ตาของคนขับรถมองไม่ชัด ช่วยให้คนขับรู้สึกปลอดภัยและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถที่ทัศนวิสัยไม่ดีได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก หรือมีหมอกปกคลุมหนาแน่น

ติดตั้งไฟตัดหมอก จำเป็นหรือไม่

ติดตั้งไฟตัดหมอก จำเป็นหรือไม่

โดยปกติแล้วไฟตัดหมอกจะได้รับการติดตั้งให้กับรถยนต์รุ่นท็อป หรือรุ่นที่สูงกว่ารุ่น Standard ทั่วไป เพราะเป็น option เสริมพิเศษสำหรับรถที่มีราคาสูงกว่าในรถยนต์รุ่น Standard ถ้าหากรถใดที่ไม่มีไฟตัดหมอกติดตั้งมา ก็สามารถติดตั้งในภายหลังได้

โดยเฉพาะรถยนต์ที่สัญจรในเส้นทางบนพื้นที่ภาคเหนือของประเทศเป็นประจำ บริเวณดังกล่าวมักมีหมอกลงหนาจัดในตอนเช้า ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง การติดตั้งไฟตัดหมอกจึงสำคัญมาก

นอกจากนี้แล้วในหลายพื้นที่ยังมีการเผาไฟข้างทางทำให้เกิดควันไฟปกคลุมเส้นทาง ประกอบกับฝนตกหนักเป็นระยะเวลานาน ๆ ทำให้ไฟตัดหมอกมีความสำคัญมาก แม้โอกาสที่จะใช้ได้น้อย แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีเพื่อใช้งาน

ข้อกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับไฟตัดหมอก

จากพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมในกฎกระทรวง ฉบับที่ 25 พ.ศ.2536 ข้อ 3 (3 ทวิ) ให้เพิ่มข้อความดังนี้ (3 ทวิ) ในกรณีที่รถมีโคมไฟเพื่อใช้ตัดหมอก จะเปิดไฟ หรือใช้แสงสว่างได้เฉพาะในทางที่ขับรถผ่านมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละออง จนเป็นอุปสรรคอันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมาในระยะของแสงไฟ

ดังนั้นคำถามที่ว่า ไฟตัดหมอก ใช้ตอนไหน คำตอบ คือ ให้ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ คือจะต้องมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละออง ที่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่เกิดขึ้นเท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้ใช้ไฟตัดหมอกได้ หากเจ้าของรถยนต์เปิดไฟตัดหมอกในสถานการณ์ปกติ

เจ้าหน้าที่จราจรสามารถที่จะใช้ดุลยพินิจในการจับปรับได้ เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรระมัดระวังการใช้งานไฟตัดหมอก ห้ามเปิดพร่ำเพื่อ เมื่อโดนจับปรับจะปฏิเสธไม่รู้กฎหมายมิได้ เพราะคุณลักษณะของไฟตัดหมอกจะมีแสงสว่างที่มาก อาจทำให้ไปรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทางได้

วิธีการใช้งานไฟตัดหมอกที่ถูกต้อง

วิธีการใช้งานไฟตัดหมอกที่ถูกต้อง

ในเมื่อไฟตัดหมอกไม่สามารถที่จะเปิดใช้งานในสภาวะปกติได้ หลายคนอาจสงสัยว่าเวลาจะใช้ไฟตัดหมอก จะต้องรอหมอก หรือควันเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ .. ในความเป็นจริงแล้ว หากพื้นที่ที่อาศัยอยู่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม อยู่ในเมือง ห่างไกลป่า มิใช่พื้นที่บนภูเขา

การพิจารณาซื้อรถที่มีไฟตัดหมอกหรือติดตั้งไฟตัดหมอกเพิ่มเติมอาจไม่จำเป็นเท่าใดนัก แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้งานจริงและใช้โดยไม่เกิดปัญหากับข้อกฎหมาย ผู้ขับขี่สามารถใช้งานไฟตัดหมอกได้ดังนี้

1.ขับรถขึ้นดอยหรือยอดเขา ในช่วงหมอกหนา

การขับรถบนพื้นที่ยอดเขา หรือเดินทางผ่านภูมิประเทศที่เป็นภูเขาในช่วงเช้า หรือตอนค่ำ ในฤดูหนาว เพราะบริเวณดังกล่าวจะมีหมอกลงหนามากกว่าปกติ เพื่อป้องกันอันตรายจากรถยนต์ที่สวนมาและคนที่สัญจรไปมาได้

2.หมอกควันบริเวณถนนจนมองรถข้างหน้าไม่เห็น

การเกิดหมอกควันบริเวณข้างทาง ที่อาจมีการจุดไฟเผาหญ้าข้างทาง หรือเกิดไฟป่า ส่งผลให้เกิดทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง หรือมองไม่เห็นในระยะ 50 เมตร ผู้ขับขี่สามารถที่จะเปิดไฟตัดหมอกได้ทันที เพื่อให้รถที่สวนมาได้มองเห็นรถของเรา

3.ฝนตกหนักและมีพายุฝนฟ้าคะนอง

ใช้ในกรณีที่เกิดพายุฝนตกหนักถึงหนักมาก จนไฟส่องสว่างปกติไม่สามารถส่องสว่างให้เห็น ผู้ขับขี่สามารถที่จะเปิดไฟตัดหมอกเพื่อใช้งานได้ทันที

หรือในกรณีที่ฝนหยุดตกใหม่ในเวลากลางคืนก็สามารถที่จะใช้งานไฟตัดหมอกได้เช่นกัน เพราะแสงจากโคมไฟหน้าที่สาดส่องจะถูกน้ำบนพื้นถนนสะท้อนออกหมด การเปิดไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นทางและพื้นถนนได้ดีกว่า

4.ทางเปลี่ยว ถนนเส้นรอง ขับเข้าป่าหรือที่รกร้าง

การขับรถในที่เปลี่ยว หรือไม่มีไฟส่องสว่างข้างทางในช่วงเวลากลางคืนและมีรถร่วมทางน้อย อาจพิจารณาเปิดไฟตัดหมอกใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่เมื่อเข้าเขตชุมชน หรือเริ่มมีรถยนต์ในปริมาณมาก ควรปิดไฟตัดหมอกเพื่อจะได้ไม่รบกวนทัศนวิสัยของเพื่อนร่วมทาง

ไฟตัดหมอก ใช้ทางเปลี่ยว ถนนเส้นรอง ขับเข้าป่าหรือที่รกร้าง

จะเห็นว่าการใช้งานไฟตัดหมอกมีประโยชน์มากกว่าโทษ แม้ว่ากฎหมายจะไม่ระบุบทลงโทษที่แน่ชัด แต่ก็ถือเป็นมารยาทในการขับขี่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่จราจรในเขตเมืองที่มักจะพลุกพล่านไปด้วยยานพาหนะนานาชนิด

ถ้าต่างคนต่างเปิดโดยไม่มีความจำเป็น อาจทำให้ไฟตัดหมอกส่องกระทบเข้ากับตาผู้ร่วมทางจนทำให้ตาพร่ามัวและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้นควรพิจารณา การใช้ไฟตัดหมอกควรใช้เวลาใด ให้เหมาะสม ควรเปิดไฟตัดหมอกใช้งานด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง รวมถึงไม่ผิดกฎหมายให้เจ้าหน้าที่จับปรับได้

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ออนไลน์ แล้วล่ะก็… ที่ ตรีเพชรอินชัวรันส์ (TPIS) เสนอราคาเบี้ยประกันให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการแนะนำการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างน่าพึงพอใจ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

อ่านบทความต่อ: ประกัน LMG ดีไหม? ลองมารู้จักก่อนเลือกแผนที่ใช่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

"เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้" เพื่อเป็นข้อมูลการปรับปรุงเว็บไซต์และการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
หากท่านไม่ประสงค์จะให้คุกกี้เก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ท่านสามารถยกเลิกโดยการปิดการทำงานของคุกกี้ได้จากบราวเซอร์ของท่าน
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
สนใจทำประกันรถยนต์ เรื่องประกันวางใจ ตรีเพชรอินชัวรันส์

สนใจทำประกันรถยนต์
กรุณากรอกข้อมูลหรือเพิ่มเพื่อน LINE@TPIS

ตรีเพชรอินชัวรันส์ เพิ่มเพื่อน คลิก!

หนังสือให้ความยินยอม

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมแก่ บริษัท ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทฯ”) ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
    ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด สถานภาพการสมรส ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลการติดต่อ ไลน์ไอดี เฟซบุ๊คไอดี อาชีพ การศึกษา เลขบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของข้าพเจ้าเท่าที่จำเป็น รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้นที่บริษัทฯจะเก็บรวบรวมในอนาคต เป็นต้น (ต่อไปนี้เรียกว่า "ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม")
  2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
    ข้าพเจ้าให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมเพื่อประโยชน์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยและประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์/บริการอื่นของบริษัทฯ การติดต่อสื่อสารเพื่อสำรวจการใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯและ/หรือสำรวจความพอใจในการซื้อผลิตภัณฑ์และการให้บริการหลังการขาย การแจ้งเตือนกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือให้ส่วนลดพิเศษ การศึกษาวิจัยทางการตลาดและการนำเสนอหรือสำรวจวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ และบริการตลาดกลางออนไลน์เพื่อซื้อขายรถยนต์หรือสินค้ามือสองของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่มตรีเพชร รวมถึงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทประกันวินาศภัยและบริษัทประกันชีวิตที่บริษัทฯ เป็นนายหน้า

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าให้กับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อการนำเสนอขายรถยนต์, อุปกรณ์และอะไหล่ที่เกี่ยวกับรถยนต์ รวมถึงบริการหลังการขาย และบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด เพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่ออื่น ๆ รวมถึงบริษัทประกันวินาศภัยและ/หรือบริษัทประกันชีวิตที่บริษัทฯ เป็นนายหน้า เพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยของบริษัทประกันภัยดังกล่าว

ข้าพเจ้ารับทราบว่า บริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม โดยปฏิบัติ ตามนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวซึ่งข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นต้น

ข้าพเจ้าได้อ่านรับทราบและเข้าใจข้อความเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เก็บรวบรวมซึ่งเกี่ยวกับข้าพเจ้าในหนังสือฉบับนี้โดยตลอดแล้วเห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนาและความประสงค์ของ ข้าพเจ้า ทุกประการ รวมทั้ง ข้าพเจ้ายินยอมให้ บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียด ที่ระบุข้างต้น