จอดรถติดไฟแดง ควรใช้เกียร์อะไร ลดเสี่ยงเกียร์พัง

จอดรถติดไฟแดง ควรใช้เกียร์อะไร ลดเสี่ยงเกียร์พัง

เกียร์รถยนต์ เป็นส่วนประกอบหนึ่งของรถยนต์ที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อด้วยแรงบิดและความเร็วที่เหมาะสม เกียร์รถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ (เกียร์ออโต้) โดยในวันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับเกียร์อัตโนมัติมาฝาก เพราะปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่หันมาใช้เกียร์อัตโนมัติกันเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงรถกระบะและรถบรรทุกบางประเภทเท่านั้น

จอดรถติดไฟแดง ใช้เกียร์อะไรดี?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยโดยเฉพาะมือใหม่ที่มักจะถามว่า เมื่อจอดรถติดไฟแดงหรือในสถานการณ์ที่ต้องหยุดรถชั่วคราว ควรใช้เกียร์อะไรดี ?

  • • หากเป็นการจอดรถโดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 นาที สำหรับเกียร์อัตโนมัติแนะนำให้เหยียบเบรกและคงเกียร์ D ไว้ ในส่วนของเกียร์กระปุกแนะนำให้ใส่เกียร์ N เหยียบเบรก แต่ถ้าเป็นทางลาดชัน ให้ดึงเบรกมือช่วย
  • • หากเป็นการจอดรถมากกว่า 1 นาทีขึ้นไป แนะนำให้เข้าเกียร์ N และใช้วิธีการดึงเบรกมือ เพื่อป้องกันรถลื่นไหล
  • • ไม่แนะนำให้ใช้เกียร์ P เพราะเกียร์ P เหมาะแก่การจอดเป็นระยะเวลานาน ๆ

ทำไมไม่ควรใช้ “เกียร์ P” เมื่อรถติดไฟแดง?

การใช้เกียร์ P (Parking) เมื่อรถติดไฟแดง หรือจอดรถชั่วคราวไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เนื่องจากเกียร์ P มีไว้สำหรับการจอดรถเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการหยุดรถชั่วคราวในสถานการณ์ที่รถจอดติดไฟแดงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพราะรถรุ่นใหม่บางชนิดหากเลื่อนเกียร์ไปตำแหน่ง P เท่ากับว่าเป็นการปลดล็อครถอัตโนมัติ อาจทำให้เกิดอันตรายหากมีเด็กเผลอเปิดประตู หรือถูกมิจฉาชีพเปิดประตูเข้ามาภายในรถได้ในรถบางรุ่นเมื่อใส่เกียร์ P ประตูทั้ง 4 จะเปิดล็อกอัตโนมัติ ในขณะที่บางคนอาจพลาดจากใส่เกียร์ P เป็น R ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ ​เกียร์พังเร็วขึ้นจริงมั้ย

ปัจจุบันระบบเกียร์มีการพัฒนาและปรับปรุงให้มีศักยภาพมากขึ้นกว่าในอดีต ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ในรถยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติมีปัญหาน้อยลง ดังจะเห็นได้จากในรถบางรุ่นมีระบบ Paddle Shift ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้เองเหมือนระบบเกียร์ Manual เพียงแต่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ ผู้ขับสามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ได้ทันที เพียงแต่ผู้ขับขี่จะต้องมีความชำนาญในเรื่องของรอบเครื่องยนต์และความเร็วที่สัมพันธ์กัน เว้นเสียแต่ว่าใช้เกียร์ไม่สัมพันธ์กับความเร็วและรอบของรถก็จะทำให้เกียร์มีปัญหาได้

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกียร์ออโต้

เกียร์ออโต้ คือระบบเกียร์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เท้าในการเหยียบคลัตช์ หรือเปลี่ยนเกียร์เอง เพียงเลือกใส่เกียร์ D เพียงเกียร์เดียวสามารถที่จะขับเคลื่อนรถยนต์ไปข้างหน้าได้ในทุกระดับความเร็ว เกียร์ออโต้มีข้อดี คือ ใช้งานง่าย สะดวก ประหยัดน้ำมัน ขับขี่ได้นุ่มนวลกว่าเกียร์ธรรมดา เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่ขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น แต่เกียร์ออโต้ก็มีข้อเสียคือ ราคาแพงกว่าเกียร์ธรรมดา ซ่อมบำรุงยากกว่าเกียร์ธรรมดาเพราะมีระบบที่ซับซ้อนกว่านั่นเอง

4 ประเภทของเกียร์ออโต้

1. เกียร์ซีวีที (CVT)

หรือ Continuously Variable Transmission เป็นเกียร์อัตโนมัติระบบแปรผัน ซึ่งประกอบไปด้วยพูลเลย์ขับและพูลเลย์กำลัง ที่ทำงานในการปรับเปลี่ยนอัตราส่วนของรอบเครื่องยนต์และอัตราเร่งให้ทำงานสอดคล้องกัน ลักษณะการทำงานของระบบเกียร์ CVT จะเป็นการขยับถอยเข้า-ออกของพูลเลย์ เพื่อลดหรือเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของวงสายพาน ให้เป็นไปตามอัตราการทดของเกียร์ตามที่ต้องการ

2. เกียร์ออโต้แบบ Torque Converter

เกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter Torque Converter เป็นระบบเกียร์ที่ส่งกำลังการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปยังเกียร์อื่น ๆ ในระบบเกียร์ของรถยนต์ ทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับเกียร์แต่ละเกียร์ โดยอาศัยหลักการของแรงเฉื่อยของของเหลว (Fluid Inertia) ในการถ่ายเทกำลัง Torque Converter ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ ใบพัด (Impeller) , ใบกังหัน (Turbine) และแผ่นจาน (Stator)

3. เกียร์ออโต้แบบคลัตช์คู่

Dual Clutch Transmission หรือ DCT คือเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ที่พัฒนามาจากเกียร์ธรรมดา โดยอาศัยหลักการของคลัตช์คู่ ซึ่งทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น นุ่มนวลขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น เกียร์ DCT มักถูกใช้ในรถยนต์สมรรถนะสูง เช่น รถสปอร์ต หรือรถแข่ง

4. ระบบเกียร์ออโต้แบบกึ่งอัตโนมัติ

Automated Manual Transmissions หรือเกียร์ AMT เป็นระบบเกียร์ออโต้ที่ยังคงมีการใช้คันเกียร์อยู่ แต่ระบบจะทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ให้เองโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถและรอบเครื่องยนต์ หรือการเร่งเครื่องด้วยการเหยียบคัน เร่งระบบก็จะเปลี่ยนเกียร์ให้อัตโนมัติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเกียร์ธรรมดา แต่มีความสะดวกกว่ามาก เพราะไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง เพียงแค่เหยียบคันเร่งและเบรกเท่านั้น

สัญลักษณ์หน้าปัดเกียร์ออโต้ควรจำ

สัญลักษณ์หน้าปัดเกียร์ออโต้ควรจำ

สัญลักษณ์ที่ปรากฎบนหน้าปัดเกียร์อัตโนมัติ (Automatic Transmission) บนห้องปัดของรถยนต์มักจะแตกต่างไปตามแต่ละรุ่นและผู้ผลิต อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์บางอย่างที่ถือเป็นมาตรฐานมีด้วยกันดังนี้

  • • P (Park) หมายถึง โหมดจอดรถ ใช้เมื่อต้องการจอดรถและต้องการให้เกียร์ล็อคไม่ให้รถเคลื่อนที่
  • • R (Reverse) หมายเกียร์ ถอยหลัง ใช้เมื่อต้องการถอยรถยนต์
  • • N (Neutral) หมายถึง เกียร์ว่าง ใช้เมื่อต้องการปล่อยเกียร์ ไม่ได้เป็นการล็อคล้อ สามารถที่จะเข็นรถ หรือเคลื่อนที่รถได้โดยไม่ต้องใช้กำลังจากเครื่องยนต์
  • • D (Drive) หมายถึง เกียร์ขับเคลื่อน หรือเกียร์เดินหน้า ใช้เมื่อต้องการให้รถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ระบบเกียร์จะเปลี่ยนเกียร์โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขการขับขี่
  • • L (Low) หมายถึง เกียร์ต่ำ บางรุ่นจะใช้ระดับเกียร์เป็น 1-2-3 โดย 1 เป็นระดับต่ำสุด ไว้สำหรับการขับขี่บนทางลาดชัน หรือใช้ความเร็วต่ำ

เชื่อว่าหลายคนคงได้ความรู้ไม่มากก็น้อยของเกียร์อัตโนมัติ ที่เมื่อจอดรถติดไฟแดงจะต้องใช้เกียร์อะไร การเปลี่ยนเกียร์ไปมาจะพังหรือไม่ ระบบเกียร์อัตโนมัติมีประโยชน์มากในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ ควรจำไว้ว่าการดูแลและบำรุงรักษาระบบเกียร์อัตโนมัติเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเกียร์รถยนต์ให้ยาวนานควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และอะไหล่ที่เกี่ยวข้องตามระยะที่ศูนย์รถยนต์กำหนดมา หรือตามการใช้งาน

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ