เปรียบเทียบประกันชีวิตปี 2568 ซื้อยังไงให้ได้ความคุ้มครองที่ใช่

การเลือกซื้อประกันให้ตรงกับความต้องการและได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ มิใช่เพียงแค่การจ่ายเงินค่าเบี้ยในราคาถูกที่สุด แต่เป็นการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบในทุก ๆ ด้านเพื่อให้ได้ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ชีวิตและช่วยบริหารความเสี่ยงได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่า เราได้รวบรวมข้อควรรู้เวลาเลือกซื้อประกันเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจ
1. ประเมินความต้องการและความเสี่ยงของตัวเอง
สิ่งแรกที่ควรทำก่อนเลือกซื้อประกันชีวิต คือการประเมินความต้องการและความเสี่ยงของตัวคุณเองอย่างรอบคอบ เช่น หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำงาน อาจเน้นไปที่ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพื่อสร้างวินัยในการออมและคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับผู้ที่มีครอบครัวแล้วควรเน้นประกันที่ให้ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยหนักหรือเสียชีวิต เพื่อไม่ให้คนข้างหลังต้องแบกรับภาระทางการเงิน ส่วนผู้สูงวัยควรเลือกประกันที่เน้นการคุ้มครองโรคร้ายแรงหรือประกันบำนาญเพื่อเตรียมความพร้อมในวัยเกษียณ การประเมินนี้ควรคำนึงถึงสวัสดิการที่มีอยู่ควบคู่กัน เช่น ประกันกลุ่มจากบริษัท / สิทธิประกันสังคม / สวัสดิการของข้าราชการ เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ยังขาด

2. ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์และเปรียบเทียบแผนประกัน
การอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดในกรมธรรม์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแต่ละแผนของกรมธรรม์ประกันชีวิตมักจะมีเงื่อนไข ข้อยกเว้น และขอบเขตความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซึ่งมักจะทำตัวหนังสือเล็ก ๆ ในโฆษณา เช่น ประกันสุขภาพบางประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีเป็นผู้ป่วยใน (IPD) เท่านั้น หากเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเอง ขณะที่บางประเภทครอบคลุมทั้งผู้ป่วยนอกหรือโรคร้ายแรงด้วย นอกจากนี้ควรนำแผนประกันต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกันเพื่อเลือกแผนที่ตอบโจทย์ตามความต้องการและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณให้มากที่สุด เช่น
- ประกันประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นรูปแบบการประกันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยวางแผนทางการเงินในระยะยาวโดยเฉพาะสำหรับช่วงวัยเกษียณ หลักการคือผู้ทำประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเปรียบเสมือนการออมเงินระยะยาว เมื่อถึงช่วงอายุที่กำหนดไว้ เช่น ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้เอาประกันจะได้รับเงินตอบแทนในรูปแบบรายปีต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 80 ปี หรือมากกว่านั้น จุดเด่นของประกันประเภทนี้คือสิทธิในการลดหย่อนภาษีสำหรับประกันแบบบำนาญ , มีการจ่ายผลประโยชน์เป็นรายปี เป็นต้น
- ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูก เป็นรูปแบบประกันที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการออมระยะสั้น 10-20 ปี เพื่อนำเงินที่ได้เมื่ออยู่ครบสัญญามาเป็นค่าเล่าเรียนบุตรหรือเป็นทุนให้ลูกได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งบางแผนจะมีเงินคืนให้ ปีละ 1-2 %
- ประกันโรคร้ายแรง คือประกันที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น โรคมะเร็ง , โรคหลอดเลือดและหัวใจ , โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันคนไทยมีสถิติเสียชีวิตจากกลุ่มโรคเหล่านี้มากที่สุด ประกันโรคร้ายแรงจึงเหมาะกับคนวัยทำงานและคนมีครอบครัว เพราะมักมีไลฟ์สไตล์ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน , การหักโหมจากการทำงานหนัก หรือการสังสรรค์และปาร์ตี้อยู่เป็นประจำ จึงนำมาซึ่งความเสี่ยงของโรคร้ายแรงที่กล่าวมาข้างต้นได้
นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบข้อยกเว้นและเงื่อนไขการเคลม เช่น ระยะเวลารอคอย การต่ออายุและการยกเว้นโรคประจำตัว ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ผู้ทำประกันมักจะบกพร่องและมีปัญหาในการเคลมประกัน
3. วางแผนการเงินและเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะสม
แม้ว่าความคุ้มครองจะสำคัญ แต่การวางแผนการเงินก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อย คุณจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการประเมินความสามารถในการจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันได้ในระดับไหนและหากต้องจ่ายต่อเนื่องหลายปีจะไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน ค่าเบี้ยประกันที่สูงขึ้นมักจะมาพร้อมกับความคุ้มครองที่มากขึ้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับรายได้และเป้าหมายชีวิต เช่น หากต้องการประกันเพื่อเกษียณ ควรเลือกแผนที่เน้นการออมระยะยาว อย่าหลงไปกับโปรโมชันหรือเบี้ยถูกในช่วงแรกโดยไม่พิจารณาความคุ้มครองที่แท้จริง การเลือกช่วงเวลาในการชำระก็มีส่วนสำคัญเพราะเบี้ยประกันที่สูง ก็จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินในเดือนนั้น ๆ หายไป จึงควรเลือกช่วงเวลาปีใหม่เพราะเป็นช่วงที่มีการจ่ายโบนัสประจำปี หรือจะใช้วิธีสะสมค่าเบี้ยเป็นรายเดือนก่อนที่จะนำมาจ่ายในรายปี เป็นต้น

4. เลือกประกันที่เติมเต็มช่องว่างความคุ้มครอง
หลังจากประเมินสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว ให้เลือกซื้อประกันที่เติมเต็มในส่วนที่ขาด เช่น หากมีประกันกลุ่มจากที่ทำงานอยู่แล้วแต่คุ้มครองไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด อาจเลือกซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติม โดยเลือกแผนที่จ่ายเงินทดแทนในกรณีที่ขาดรายได้จากการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือหากไม่มีประกันชีวิตสำหรับครอบครัว ควรพิจารณาทำประกันชีวิตเพื่อสร้างหลักประกันทางการเงินให้กับคนที่คุณรัก การเลือกประกันควรเน้นที่ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของชีวิต ไม่ใช่แค่เพราะเป็นกระแสหรือเพื่อนแนะนำ
การเลือกซื้อประกันให้ได้ความคุ้มครองที่ใช่และตรงกับความต้องการไม่ใช่เรื่องยากหากคุณเริ่มต้นจากการประเมินตนเอง ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ เปรียบเทียบแผนประกัน วางแผนการเงิน และเลือกความคุ้มครองที่เติมเต็มช่องว่างในชีวิตของคุณ การไม่มองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากประกันที่ซื้อ และมั่นใจได้ว่าคุณและครอบครัวจะมีหลักประกันที่มั่นคงในทุกสถานการณ์
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ