ที่เที่ยวเกียวโตความโบราณที่งดงาม ไม่ควรพลาด

เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นและอยากสัมผัสเสน่ห์ของเมืองหลวงเก่า ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือน ในบทความนี้ขอแนะนำ 20 สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโต ที่ผสมผสานความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณ วัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างลงตัว

1. วัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera)

วัดคิโยมิซุเดระ หรือ วัดน้ำใส ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 780 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมในการสร้างระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ดอกเดียว ความสวยงามของวัดแห่งนี้จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ตัวอาคารจะปกคลุมไปด้วยดอกซากุระ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีส้มและสีแดงจากใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวเมืองเกียวโตที่มีความสวยงามได้จากระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่มีความสูงเหนือจากพื้นถึง 13 เมตร

ค่าเข้าชม : 400 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 18:00 น. 

การเดินทาง :  สามารถเดินทางโดยรถบัสจากสถานี Kyoto ไปยังป้าย Kiyomizu-michi หรือ Gojo-zaka แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

2. วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji)

วัดคินคะคุจิ  หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘วัดทอง’ ถูกสร้างขึ้นในปี 1397 โดย โชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ จุดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ตรงที่อาคารหลักของวัดที่เป็นสีทองที่มีความสวยงามยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อตัวอาคารโดนแสงแดดในยามเช้า ทำให้มีแสงเปล่งประกายสะท้อนจากตัวอาคารและผืนน้ำ ซึ่งตัวอาคารของวัดคินคะคุจิยังปรากฏในการ์ตูนดังอย่างอิคคิวซังอีกด้วย นอกจากตัวอาคารที่มีความสวยงามแล้ว บริเวณโดยรอบยังได้รับการตกแต่งให้เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 

ค่าเข้าชม : 400 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.

การเดินทาง : เดินทางโดยรถบัสจากสถานี Kyoto ไปยังลงป้าย Kinkaku-ji-michi

3. วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji)

เมื่อมีวัดทองแล้วก็ต้องมีวัดเงิน หนึ่งใน 2 วัดที่ใครไปเที่ยวเกียวโตต้องไม่พลาด โดยเฉพาะสายมูที่ต้องไปขอพรเกี่ยวเรื่องเงินๆ ทองๆ วัดกินคะคุจิ หรือวัดเงิน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1482 โดยโชกุนอาชิคางะ โยชิมาสะ แม้ว่าตัวอาคารจะไม่ได้ถูกหุ้มด้วยเงิน แต่มีความเรียบง่ายในแบบนิกายเซน ตัววัดมีเทือกเขาและสายน้ำไหลผ่าน ทั้งยังเหมาะเป็นสถานที่จัดพิธีชงชาในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม 

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 08: 30 – 17:00 น.

การเดินทาง : เดินทางโดยรถบัสจากสถานี Kyoto ไปยังป้าย Ginkakuji-michi และเดินเข้าไปอีกเล็กน้อย

4. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ศาลเจ้าชื่อดังที่มีเสาโทริอิสีแดงเรียงรายกันเป็นพันต้นตามแนวเขาอินาริ ซึ่งทุกคนจะต้องไม่พลาดกับการเดินลอดใต้เสานับพันต้นนี้ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าอินาริ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ ตั้งอยู่บนภูเขาอินาริที่มีความสูง 233 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับผู้ที่จะมากราบไหว้สักการะจะต้องเดินเท้าขึ้นไปโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปทุกท่านจะได้พบกับร้านค้า , ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก 

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : –

การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถไฟ JR สายนารา ไปยังสถานี Inari และเดินเข้าไปเพียงไม่กี่นาที

5. ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)

หากใครได้ไปเที่ยววัดเงิน หรือ วัดกินคะคุจิ จะต้องไม่พลาดกับถนนสายนักปราชญ์นี้ ถนนเส้นนี้เป็นถนนเลียบคลองสายเล็ก ๆ ที่มีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่เต็มสองทางเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ที่มาของถนนเส้นนี้เกิดจากนักปราชญ์ที่มีนามว่า Nishida Kitaro ที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทำสมาธิระหว่างทางไป-กลับจากมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมไปแล้วเพราะมีความสวยงามมากโดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนเมษายนที่บริเวณสองข้างทางจะถูกปกคลุมไปด้วยดอกซากุระกำลังบานสะพรั่ง

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : –

การเดินทางและที่ตั้ง : ตั้งอยู่ระหว่างวัดกินคะคุจิและวัดนันเซ็นจิ สามารถเดินจากวัดกินคะคุจิได้

6. วัดนินนาจิ (Ninna-ji)

วัดนินนาจิ เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองเกียวโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก วัดแห่งนี้เป็นวัดหลักของนิกายโอมูโระของนิกายชินงอน ก่อตั้งโดยจักรพรรดิองค์ปัจจุบันในปี ค.ศ. 888 ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา สมาชิกราชวงศ์เคยดำรงตำแหน่งประมุขสงฆ์ อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อพระราชวังอิมพีเรียลโอมูโระอีกด้วย เนื่องจากสงครามและเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในอดีตทำให้อาคารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 เหลืออยู่เพียงหลังเดียวเท่านั้น อาคารที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงต้นยุคเอโดะในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1600 ได้แก่ วิหารหลัก (Kondo) , วิหารคันนง , ประตูหน้า Niomon , ประตูชั้นใน Chumon และเจดีย์ห้าชั้น

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น.

การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟ JR Kyoyo สายSaiin ไปลงสถานี Enmachi จากนั้นขึ้นCity Bus ไปลงป้าย Omuro Ninnaji

7. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

ปราสาทนิโจ เป็นหนึ่งในปราสาทกลางเมืองเกียวโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1603 โดยโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ และเป็นตัวแทนของอำนาจของโชกุนในยุคนั้น ซึ่งมีอายุมากกว่า 400ปี พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ นิโนมรุ , ฮอนมารุ และสวน ภายในยังมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนังของพระราชวังและจะเปลี่ยนทุก ๆ ไตรมาส

ค่าเข้าชม : 1,300 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 08:45 – 16:00 น.

การเดินทาง : เดินทางโดยรถบัสจากสถานี Kyoto Ekimae ไปยังสถานี Nijojo-mae

8. วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji)

เดิมทีวัดเรียวอันจิถูกใช้เป็นที่พักของเหล่าขุนนาง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นวัดและใช้เป็นสถานที่สอนทางศาสนา จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ‘สวนหิน’ ที่ว่ากันว่ามีความสวยงามเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ แม้ว่าจะมีหินเพียง 15 ก้อน แต่ไม่ว่าจะมองในมุมใด ๆ ก็มักจะมองไม่ครบทุกก้อน ด้วยปริศนาของสวนหินแห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาชื่นชมสวนหินและขอพิสูจน์ปริศนาของสวนหินด้วยสายตาตัวเองอย่างไม่ขาดสาย

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 17:00 น.

การเดินทาง : เดินทางโดยรถบัส จากสถานีซันโจเคฮัง ลงป้ายเรียวอันจิมาเอะ

9. พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)

พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระราชวังเกียวโต ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่นจนถึงปี ค.ศ.1869 หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้พระราชวังแห่งนี้มิได้เป็นที่พำนักของจักรพรรดิและราชวงศ์ ปัจจุบันภายในพระราชวังยังคงได้รับการดูแลและปรับปรุงให้มีความสวยงาม เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของสถานที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 16:00 น.

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Imadegawa หรือ Marutamachi จากนั้นเดินต่อเพียงเล็กน้อย

10. วัดโทจิ (To-ji)

เป็นอีกหนึ่งวัดของเกียวโตที่ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก วัดโทจิ เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ คาดว่าถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยเฮอัน จุดเด่นของวัดนี้คือมีเจดีย์ห้าชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 796 และเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินงอน 

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เวลาเปิด – ปิด : 08:30 – 17:30 น.

การเดินทาง : ตั้งอยู่ใกล้สถานี Kyoto สามารถเดินเท้าไปได้ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

11. วัดเอคันโดเซนรินจิ (Zenrinji)

วัดเอคันโดหรือเซนรินจิ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 863 โดยเจ้าอาวาสเอคันโด ที่ได้รับการยอมรับนับถือเป็นอย่างมากในสมัยนั้น ภายในวัดมีสวนเซนที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อของเกียวโต โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ภายในวัดจะถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงสวยงามตระการตา

ค่าเข้าชม : 600 เยน

เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 17:00 น.

การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Karasuma-Oike ลงสถานี Keage Station จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาที

12. วัดฮิงาชิ ฮงกันจิ (Higashi Hongan-ji)

วัดฮิงาชิ ฮงกันจิ เป็นวัดหลักของนิกายโจโดชิน เป็นหนึ่งในนิกายพุทธศาสนาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1591 โดย Toyotomi Hideyoshi อาคารหลักโกะเอโดะ (Goeido) ถูกสร้างด้วยโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดนี้ยังมีประตูใหญ่ที่ทำจากไม้และไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว วัดฮิงาชิ ฮงกันจิ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : 05:50 – 17:30 น.

การเดินทาง: สามารถเดินจาก สถานีรถไฟฟ้า Kyoto ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

13. ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)

ห้องครัวของเกียวโต ตลาดที่มีอายุมากกว่า 400 ปี ตลาดนิชิกิเป็นตลาดสดที่ขายอาหารท้องถิ่นของเกียวโต เช่น ผักดองญี่ปุ่น (Tsukemono) , ผัก , ผลไม้ , ปลาหมึกย่าง , ของสดต่าง ๆ และขนมแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถชิมอาหารพื้นเมืองและซื้อเป็นของฝากได้

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 18:00 น.

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Karasuma Line ลงที่สถานี Shijo แล้วเดิน 3 นาที

14. อาราชิยามะ (Arashiyama) 

อาราชิยามะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่โด่งดังด้วยป่าไผ่และธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางป่าไผ่อาราชิยามะมีระยะทาง 600 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามและความลึกลับของป่าไผ่สองข้างทาง บริเวณโดยรอบยังมีสถานที่สำคัญอย่าง วัดเท็นริวจิน และ โอโคจิซังโซ ให้ทุกคนได้แวะชมกัน

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : สามารถเดินชมความงามได้ตลอดเวลา ช่วงกลางคืนจะมีประดับแสงไฟ

การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Sagano Line ลงที่สถานี Saga-Arashiyama

15. กิออน (Gion)

สัมผัสเสน่ห์เมืองเก่าย่านเกอิชาแห่งเกียวโต กิออนเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีกลิ่นอายของผู้คนและวัฒนธรรมในอดีต ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเห็น เกอิชา และ ไมโกะ (นักเต้นฝึกหัด) แต่งตัวด้วยชุดกิโมโนเดินไปมาบนถนนฮานามิโคจิ บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านน้ำชาแบบดั้งเดิมและสถาปัตยกรรมเก่าแก่

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : –

การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Kyoto ด้วยสาย Karasuma Line มาลงที่สถานี Shijo แล้วเดินมายังสถานี Karasuma เพื่อขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kyoto Line มาลงที่สถานี Kyoto-Kawaramachi

16. ปอนโทโช (Pontocho) – ซอยอาหารยามค่ำคืน

ปอนโทโชเป็นถนนแคบๆ ขนานไปกับแม่น้ำคาโมะกา เป็นย่านกินดื่มที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกียวโต เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1870 มีร้านอาหารและอิซากายะเก่าแก่มากมาย บรรยากาศยามค่ำคืนมีความสวยงามเพราะประดับด้วยโคมไฟแดง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกนั่งร้านเพื่อรับประทานอาหารหรือดื่มสังสรรค์ได้ตามอัธยาศัย

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : – 17:00 – 23:00 น.

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Hankyu Line ลงที่สถานี Kawaramachi

17. พิพิธภัณฑ์นินจาซามูไรเกียวโต

ใครที่ชื่นชอบนักรบซามูไร นินจา จะต้องไม่พลาดกับการเยี่ยมชมความเก่าแก่และความสวยงามของอาวุธ เครื่องแต่งกายทั้งในส่วนของซามูไรหรือนินจา พร้อมการสาธิตเทคนิคการต่อสู้ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ของนักรบญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม : 3,000 เยน

เวลาเปิด – ปิด :  09:00 – 18:30 น.

การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Hankyu-Kyoto ลงที่สถานี Kawaramachi จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย

18. สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge)

สะพานโทเก็ตสึเคียว ถือเป็นสัญลักษณ์ของอาราชิยามะ สร้างขึ้นในยุคเฮอัน (ค.ศ. 836) เดิมทีสร้างจากไม้ทั้งหมด ต่อมาได้มีการปรับปรุงแก้ไขเสริมคอนกรีตและเหล็กให้มีความแข็งแรง คงไว้เพียงแต่บริเวณราวสะพานที่ยังเป็นไม้เหมือนเดิม สะพานโทเก็ตสึเคียวเป็นจุดชมวิวแม่น้ำและธรรมชาติที่สวยงาม และสวยงามยิ่งขึ้นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด – ปิด : – 

การเดินทาง : รถไฟสาย JR Sagano Line (JR San-In Line) จากสถานี Kyoto ลงสถานี Saga-Arashiyama จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที

19. หมู่บ้านภาพยนตร์โทเอ อุซึมาสะ (Toei Uzumasa Eigamura)

หากนึกถึงหนังหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับนินจาและซามูไร ต้องนึกถึงหมู่บ้านภาพยนตร์โทเอ อุซึมาสะ ซึ่งเป็นสตูดิโอและสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ยุคซามูไร มีหมู่บ้านจำลองแบบยุคเอโดะและมีการแสดงคาบูกิให้นักท่องเที่ยวชม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,200 เยน / เด็กมัธยม 1,300 เยน / เด็กตั้งแต่ 3 ปี ถึงชั้นประถม 1,100 เยน

เวลาเปิด – ปิด : 09:00-17:00 น.

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Uzumasa จากนั้นเดินประมาณ 5 นาที

20. เทราดายะ (Teradaya)

เทราดายะเป็นโรงแรมเก่าแก่ตั้งแต่ยุคเอโดะ เคยเป็นที่พักของซามูไรชื่อดังอย่าง ซากาโมโตะ เรียวมะ และเกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองและเคยถูกเผาทำลายไปแล้ว ปัจจุบันมีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการปฏิวัติในสมัยนั้น

ค่าเข้าชม : 400 เยน

เวลาเปิด – ปิด : 10:00-16:00 น.

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Keihan Line ลงที่สถานี Keihan Nakashima แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทั้งวัดเก่าแก่ ธรรมชาติสวยงาม และย่านโบราณที่ยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่น อาจต้องเผื่อเวลาในการเที่ยวเกียวโตสัก 5-7 วัน เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากที่รอให้คุณได้ไปรับชม

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ