เป็นไข้หวัดกี่วันหาย

เป็นไข้หวัดกี่วันหาย

ไข้หวัดเป็นโรคยอดฮิตที่คนทุกเพศวัยมีโอกาสเจ็บป่วยได้ตลอดปี มีไข้หวัดหลายประเภทที่อาการและความรุนแรงแตกต่างกัน สาเหตุหลักของโรคหวัดเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน มาดูรายละเอียดของไข้หวัดแต่ละประเภทกัน

ไข้หวัดธรรมดา

ไข้หวัดธรรมดา หรือเรียกว่าไข้หวัดตามฤดูกาล (Common Cold) ที่เป็นกันส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งมีเกือบ 200 สายพันธุ์บนโลก แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดจะเป็นเชื้อไรโนไวรัส (Rhino Viruses) โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่อาจป่วยเป็นไข้หวัด 2-3 ครั้งต่อปี ส่วนเด็กเล็กมีภูมิต้านทานต่ำกว่าอาจป่วย 4-6 ครั้งต่อปี

อาการของไข้หวัดทั่วไป

อาการของไข้หวัดทั่วไป
  • • ระยะที่ 1 ช่วงวันที่ 1-3 เริ่มมีอาการระคายคอ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เสียงแหบและเจ็บคอในระยะแรกเริ่ม
  • • ระยะที่ 2 ช่วงวันที่ 4-7 อาการหนักขึ้น ปวดศีรษะ เมื่อยตัว อ่อนเพลีย ตาแฉะ มีไข้ต่ำ
  • • ระยะที่ 3 ช่วงวันที่ 8-10 อาการเริ่มดีขึ้น แต่ยังมีไอต่อเนื่องซึ่งอาการจะค่อยๆดีขึ้น แต่ถ้าอาการไข้กลับมาอีก ควรพบแพทย์เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

อาการป่วยไข้หวัดธรรมดาไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากนักในกรณีที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน ลองสังเกตตัวเองว่าเป็นหวัดไวรัส หรือหวัดแบคทีเรีย เพราะหวัดทั้ง 2 ชนิด มีอาการและการรักษาแตกต่างกัน โดยสาเหตุที่พบมากที่สุดคือติดเชื้อไรโนไวรัส (Rhino Virus) และโคโรนาไวรัส (Corona Virus) ควรทำการรักษาตามอาการ เช่น กินยาบรรเทาอาการปวดลดไข้ (พาราเซตามอล) หรือสมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจร(แบบไม่ใช่สารสกัด) และยาแก้ไอ

ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัสอย่างเฉียบพลัน โดยเชื้อก่อโรคคือ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ( Influenza Virus) อาการโดยทั่วไปคือมีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อมาก มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และเจ็บคอในระยะแรก อาการไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบนเป็นหลัก ในจมูกมีน้ำมูก คัดจมูก และจาม ในลำคอ มีอาการเจ็บคัน ระคายคอ ไอ ต่อมทอนซิลโต และในหลอดลมส่วนต้นจะมีเสมหะ และเสียงแหบ

ไวรัสไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B สำหรับไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ B มีอาการรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไข้หวัดทั้ง 2 สายพันธุ์มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูหนาว โดยทั่วไปไข้หวัดใหญ่จะหายในไม่กี่วัน บางรายมีอาการไอและปวดตามตัว โดยอาการป่วยมักจะหายในประมาณ 2 สัปดาห์ ยกเว้นรายที่มีอาการปอดบวมและเป็นโรคหัวใจมีโอกาสเสียชีวิตได้ โรคไข้หวัดใหญ่พบมากในกลุ่มเด็กเล็กแรกคลอดถึง 4 ปี รองลงมาคือเด็กวัยเรียนอายุ 5-9 ปี ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำได้ในระยะยาว

ไข้หวัดจากไวรัส

ไข้หวัดจากไวรัส

หวัดไวรัส อาการที่พบได้บ่อย คือ เจ็บคอเล็กน้อย มีน้ำมูก ไอจาม ประมาณ 2-4 วันก็หายไปเอง ผู้ป่วยโรคหวัดที่เกิดจากไวรัสในอากาศมีประมาณ 70%-80% โรคนี้ไม่มียาแผนปัจจุบันรักษาโดยตรง แพทย์จ่ายยารักษาตามอาการ ไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะเพราะเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดนั้นๆ

กรณีเด็กเล็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่จากเชื้อไวรัส มักมีไข้สูง มีเสมหะ หายใจเร็ว หรือหอบ บางครั้งเกิดอาการชัก อาจมีภาวะระบบการหายใจล้มเหลวร่วมด้วย เด็กแรกคลอดถึง 5 ปี เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนทางปอดได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะทารกคลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย, เด็กขาดสารอาหาร, เด็กที่ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบหรือปอดบวม, เด็กที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด, โรคปอด, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งเด็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสองจากบุคคลรอบข้าง และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง และคนสูงอายุ อาการอาจรุนแรงจนพิการและเสียชีวิตได้ โรคหวัดอาจลุกลามเป็นปอดบวม ยิ่งรู้เร็วก็สามารถรักษาได้เร็ว

สำหรับสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ช่วยต้านไวรัสมีด้วยกัน 10 ชนิด ได้แก่ ขิง , หอมแดง , กระชาย , ฟ้าทะลายโจร , มะขามป้อม , พลูคาว , กะเพรา , ขมิ้นชัน , กระเทียม และตะไคร้ เป็นการทานเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานไข้หวัดจากไวรัสหรือลดปริมาณไวรัสได้ในขณะเป็นหวัดได้ดี อีกทั้งหาง่ายเพราะเป็นสมุนไพรที่ใช้ประจำในครัวเรือน

ไข้หวัดจากแบคทีเรีย

เป็นหวัดแบคทีเรีย มีอาการเหมือนไข้หวัดจากไวรัสทุกประการ แต่อาการค่อนข้างหนักกว่า มักจะป่วยเรื้อรังนานกว่า 5-10 วัน มีไข้ตัวร้อนสูง เจ็บคอมาก หากน้ำมูกสีเขียวข้นปนสีเหลืองเกิดจากเป็นหวัดเรื้อรังจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณโพรงจมูกและไซนัส กรณีที่มีอาการหนัก น้ำมูกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือมีเลือดปน มีอาการคัดแน่นจมูก ปวดบริเวณจมูกและหน้าตึง จมูกรับกลิ่นแย่ลง อาจมีการอักเสบที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอและต่อมทอนซิลด้วย ส่วนใหญ่รักษาด้วยการกินยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

ไข้หวัดแบบไหนหายเองได้

ไข้หวัดแบบไหนหายเองได้

ไข้หวัดธรรมดาที่เป็นกันส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งมีเกือบ 200 สายพันธุ์บนโลก สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประมาณ 75-80% เกิดจากเชื้อไรโนไวรัส ป่วยไม่รุนแรง ช่วง 3-5 วันแรก อาจไม่มีไข้เลยหรือมีไข้ต่ำ มีอาการทางจมูกและทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ ปวดศีรษะ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการหวัดจะหายกลับไปเป็นปกติ แนะนำให้ระวังสุขภาพให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนในภายหลัง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อหวัดและป่วยเป็นหวัดน้อยลง

ไข้หวัดแบบไหนต้องไปหาหมอ

ไข้หวัดทั่วไปไม่ต้องไปหาหมอ แต่หากไข้ทวีความรุนแรง กล่าวคือมีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียสนานเกิน 3 วัน , หายใจลำบาก , หอบเหนื่อย , เจ็บคอมาก , ปวดศีรษะ , ปวดหูรุนแรง , ไอเรื้อรังมากกว่า 3 สัปดาห์ , เบื่ออาหาร , ปากซีด ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีหรือใกล้ชิดคนอื่นและไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะอาจป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้ออื่นๆ ไม่ควรซื้อยาเองหรือซื้อตามที่คนอื่น

โดยปกติแล้ว อาการของโรคไข้หวัดธรรมดาจะดีขึ้นโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใด ๆ และหายป่วยไม่เกิน 7 – 10 วัน แต่อาจจะมีอาการไอต่อไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รับประทานยาพาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน หรือฟ้าทะลายโจร เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัดได้ ยกเว้นทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อความปลอดภัย

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

"เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้" เพื่อเป็นข้อมูลการปรับปรุงเว็บไซต์และการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
หากท่านไม่ประสงค์จะให้คุกกี้เก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ท่านสามารถยกเลิกโดยการปิดการทำงานของคุกกี้ได้จากบราวเซอร์ของท่าน
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save