
ไม่อยากเสียภาษีเงินได้เยอะ แฉ! วิธีลดหย่อนภาษี ใครๆ ก็ทำได้
เสียภาษี เป็นหน้าที่ของคนทุกคน หากคุณเริ่มมีรายได้ประจำ ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถึงแม้จะมีรายได้ต่อปีไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีก็ตาม ก็จำเป็นต้องยื่นแบบภาษีประจำปี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม เพื่อแสดงรายได้สะสมในช่วงปีที่ผ่านมา
เช็ครายได้ต่อเดือนว่ามีเท่าไหร่ แล้วนำมารวมกันทั้งปี ว่ารายได้ปีนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ เพราะการเสียภาษีคือหน้าที่ของผู้มีรายได้ทุกคน หากคุณรายได้ไม่ถึง 150,000 บาท ต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษี (หักค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ แล้ว) ตามข้อมูลของกรมสรรพากร
ตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสุทธิ เมื่อหักค่าลดหย่อนภาษีทั้งหมดแล้วของกรมสรรพากร ปี พ.ศ.2560
ขั้นเงินได้สุทธิตั้งแต่ | เงินได้สุทธิจำนวนสูงสุด | อัตราภาษี % | ภาษีสูงสุดที่ต้องชำระของขั้นเงินได้ | ภาษีสะสมสูงสุดรวมของขั้นเงินได้ |
---|---|---|---|---|
0 – 150,000 | 150,000 | 5 | ได้รับการยกเว้นภาษี | 0 |
150,001-300,000 | 150,000 | 5 | 7,500 | 7,500 |
300,001-500,000 | 200,000 | 10 | 20,000 | 27,500 |
500,001-750,000 | 250,000 | 15 | 37,500 | 65,000 |
750,001–1,000,000 | 250,000 | 20 | 50,000 | 115,000 |
1,000,001-2,000,000 | 1,000,000 | 25 | 250,000 | 365,000 |
2,000,001- 5,000,000 | 3,000,000 | 30 | 900,000 | 1,265,000 |
5,000,001 บาท ขึ้นไป | 35 |
เมื่อเห็นตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันไดนี้แล้ว คนที่มีรายได้มากๆ อย่าเพิ่งตกใจนะ เพราะเราต้องคำนวณรายได้สุทธิ จากสูตร “เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ = เงินได้สุทธิ” แล้วจึงนำมาตรวจสอบที่ตารางข้างต้นนี้ ว่าอยู่ในเรทอัตรา เสียภาษี ต้องจ่ายจริงๆ กี่เปอร์เซ็น
หักค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวผู้มีเงินได้และครอบครัว
- ค่าลดหย่อนส่วนตัวสำหรับผู้มีเงินได้ 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท *สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้แต่แบบแสดงรายการภาษีพร้อมกัน
- ค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาท ต่อ 1 คน และตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท ตามโครงการนโยบายภาครัฐฯ
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร 60,000 บาท หากตั้งครรภ์ปีนี้และคลอดปีหน้า สามารถเลือกลดหย่อนภาษีได้ ปีใดปีนึงเท่านั้น
- ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูอุปการะพ่อแม่ คนละ 30,000 บาท และหากพ่อแม่มีบุตรมากกว่า 1 คน ต้องระบุในหนังสือรับรองว่าบุตรคนไหนใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
- ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูอุปการะผู้พิการหรือคนทุพพลภาพ 60,000 บาท
หักค่าลดหย่อนภาษีด้านการลงทุน การออม และประกันชีวิต
- ประกันสังคม ไม่เกิน 9,000 บาท
- ประกันสุขภาพตัวเอง 25,000 บาท (*ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในปี 2563)
ประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากที่มีประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 100,000 บาท
รวมประกันสุขภาพตัวเองและประกันชีวิตทั่วไปหรือในรูปแบบสะสมทรัพย์จะ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท - ประกันสุขภาพพ่อแม่ ไม่เกิน 15,000 บาท *ต้องเป็นบุตรตามกฎหมายเท่านั้น
- ประกันชีวิตคู่สมรส ไม่เกิน 10,000 บาท *กรณีเฉพาะคู่สมรสไม่มีเงินได้เท่านั้น
- เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินสะสมกองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ไม่เกิน 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของเงินได้
- เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ไม่เกิน 200,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของเงินได้ *เงื่อนไขสำคัญเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไม่เกิน 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของเงินได้ *เงื่อนไขของ RMF ต้องลงทุนตื่อเนื่อง ปีเว้นปีก็ได้ และลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 500 บาท ไปจนถึงอายุผู้ลงทุน 55 ปี
- กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ไม่เกิน 200,000 บาท หรือไม่เกิน 30% ของเงินได้
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ไม่เกิน 13,200 บาท
และเมื่อรวมกันทั้งหมดของเบี้ยประกันชีวิตบำนาญ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. / สงเคราะห์ครูฯ, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.), กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
หักค่าลดหย่อนดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
- ดอกเบี้ยกู้ยืมซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 100,000 บาท *หากกู้ร่วมกันหลายคนให้แบ่งดอกเบี้ยคนละเท่าๆ กัน แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
หักค่าลดหย่อนบริจาคให้พรรคการเมืองและตอบแทนสังคม
- เงินบริจาคให้พรรคการเมือง ไม่เกิน 10,000 บาท
- เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา สนับสนุนการกีฬา และบริจาคให้กับโรงพยาบาลของรัฐ สามารถลดหย่อนได้ 2 เท่าของที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษี
- เงินบริจาคเพื่อสังคมมูลนิธิต่างๆ และองค์กรสาธารณกุศล ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษี
อีกทั้งยังมีโครงการของภาครัฐที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช้อปดีมีคืน พ.ศ.2565 ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท ตลอดโครงการตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565
เมื่อซื้อสินค้าแล้ว อย่าลืมขอ “ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ” เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อยื่นภาษีลดหย่อนได้ในปี 2565
ที่สำคัญเลือกช้อปปิ้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อาจจะวางแผนซื้อของใช้ภายในบ้านสำหรับ 1 ปี ก็ได้ หรือสิ่งของที่อยากได้อะไรสักหนึ่งอย่างเพื่อให้เป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเอง แต่อย่าใช้จ่ายเกินตัวเชียวล่ะ
เดี๋ยวจะดีใจได้ครู่เดียว และจากนั้นจะมีหนี้คอยตามหลอกหลอนคุณนานแสนนาน
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์บนเว็บไซต์ของเราเลย คลิกที่นี่