จะทำอย่างไรเมื่อชำระค่าบัตรเครดิตเกินยอด ขอเงินคืนได้ไหม?
‘บัตรเครดิต’ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลายคน เพราะนอกจากใช้งานง่าย ไม่ต้องพกเงินสดให้เสี่ยงหายเสี่ยงถูกขโมย สถาบันทางการเงินยังเอาใจลูกค้าด้วยโปรโมชั่น แต้มสะสม และของกำนัลมากมายที่ทำให้การจับจ่ายเป็นเรื่องสนุกและลดข้อจำกัดทางการเงิน เรียกได้ว่าซื้อก่อนจ่ายที่หลัง ซึ่งสถาบันทางการเงินจะแจ้งยอดจ่ายยอดหนี้บัตรเครดิตในภายหลัง แต่ถ้าเผลอจ่ายยอดหนี้เกินหรือจ่ายซ้ำสองครั้ง จะสามารถขอเงินคืนได้ไหม เรามีคำตอบและเรื่องที่ต้องรู้มาฝาก
จ่ายบัตรเครดิตเกินยอดได้ไหม ?
โดยปกติในการเรียกเก็บยอดหนี้บัตรเครดิตจะกำหนดประมาณหลังจากวันตัดบิล หรือ Statement Date หรือ Cut Off Date ประมาณ 7 – 10 วัน ซึ่งนอกจากวันครบกำหนดชำระแล้ว สถาบันทางการเงินเจ้าของบัตรยังแจ้งยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระมาด้วย คำแนะนำการชำระหนี้คือให้ชำระเท่ากับยอดที่ใช้ไปในเดือนนั้น ๆ ไม่ควรจ่ายที่ยอดขึ้นต่ำ แต่หากถามว่าสามารถชำระยอดขั้นต่ำที่บัตรเครดิตกำหนดได้หรือไม่ คำตอบคือ ‘สามารถทำได้’ หากไม่สามารถชำระคืนได้เต็มยอดเงินใช้จริง ๆ ซึ่งการชำระเต็มจำนวนยอดใช้จ่ายส่งผลดีทั้งทำให้ยอดหนี้หมดไปในงวดนั้น ๆ และเพิ่มประวัติที่ดีทางการเงินด้วย
เผลอจ่ายบัตรเครดิตเกินยอดสามารถขอเงินคืนได้ไหม
สำหรับเจ้าของบัตรเครดิตที่จ่ายยอดหนี้บัตรเครดิตสูงกว่ายอด หรือจ่ายซ้ำ 2 ครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ สามารถเรียกเงินส่วนที่เกินคืนจากสถาบันการเงินเจ้าของบัตรได้ แนะนำให้ติดต่อเพื่อสอบถามกับสถาบันทางการเงินของบัตรเครดิตก่อนเพื่อเช็คว่ายอดชำระเข้าไปเกินยอดกำหนดหรือไม่ หรือชำระยอดที่บัตรนี้ 2 รอบจริงหรือไม่ หากยอดชำระเกินเงินใช้จ่ายจริง ๆ พนักงานจะแจ้งเพื่อดำเนินการคืนเงิน อาจเสนอให้ใช้ส่วนเกินสมทบในยอดบิลหน้า หรือข้อเสนออื่น ๆ ตามเงื่อนไขของสถาบันทางการเงิน
ขั้นตอนการขอเงินคืนเมื่อจ่ายบัตรเครดิตเกินยอดที่กำหนด
กรณีที่จ่ายบัตรเครดิตเกินยอดที่กำหนดและต้องการเงินส่วนเกินคืน ในขั้นแรกให้แจ้งกับทางสถาบันทางการเงินว่าประสงค์ต้องการเงินส่วนเกินคืน หลังจากนั้นทางสถาบันทางการเงินจะให้เจ้าของบัตรส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายชำระสินเชื่อ สำเนาเอกสารส่วนตัว สำเนาบัญชีธนาคารที่รับเงินคืน และสำเนาบัตรเครดิต ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันทางการเงินแต่ละแห่ง ซึ่งหากเอกสารครบถ้วนและตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว สถาบันทางการเงินจะโอนเงินส่วนเกินเข้าบัญชีธนาคารที่แจ้งกับสถาบันทางการเงิน
การชำระยอดหนี้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี
แม้ว่าในการแจ้งหนี้บัตรเครดิตของสถาบันทางการเงินทุกแห่งจะกำหนดยอดหนี้ขั้นต่ำกับผู้ถือบัตร โดยอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดหนี้ทั้งหมด แต่ในความจริงแล้วการชำระยอดหนี้บัตรเครดิตที่ถูกวิธีคือ ‘การชำระยอดหนี้บัตรเครดิตเต็มจำนวน’ พูดง่าย ๆ จ่ายทั้งหมดที่ใช้จ่ายภายในวันครบกำหนดชำระ (Due Date หรือ Payment Date) ซึ่งจะกำหนดหลังวันตัดบิล (Statement Date หรือ Cut Off Date) ประมาณ 7 – 10 วัน เนื่องด้วยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราที่สถาบันทางการเงินกำหนดด้วยยังอยู่ในระยะปลอดดอกเบี้ย นอกจากนั้นยังส่งผลดีต่อประวัติทางการเงินของผู้ถือบัตร ทำให้ผ่านอนุมัติสินเชื่ออื่น ๆ กับสถาบันทางการเงินได้ง่ายขึ้นด้วย
ข้อเสียของการจ่ายยอดหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ
ถึงการจ่ายยอดหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตจะไม่ได้ส่งผลเสียกับประวัติทางการเงินของผู้ถือบัตร ขอเพียงแค่จ่ายก่อนวันครบกำหนดชำระตามที่สถาบันทางการเงินกำหนด แต่การจ่ายยอดหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำทุกเดือน จะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหากไม่จ่ายยอดทั้งหมดภายในระยะปลอดดอกเบี้ยที่สถาบันทางการเงินกำหนด จะมีคิดดอกเบี้ยจากยอดเงินต้นคงเหลือ โดยเริ่มคิดจากในวันที่เริ่มใช้งานบัตรเครดิต ดังนั้นยิ่งมียอดเงินต้นคงเหลือมากยิ่งเสียดอกเบี้ย ส่งผลให้ต้องชำระหนี้รวมมากขึ้นไปด้วย
ขอเงินคืนได้ไหมที่นำมาฝาก ซึ่งคำตอบคือ สามารถขอเงินคืนได้ แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันทางการเงินเจ้าของบัตรเครดิตด้วย ถึงอย่างนั้นแนะนำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตทุกคนจ่ายค่าบัตรเครดิตสูงกว่ายอดขั้นต่ำหรือจ่ายเต็มจำนวน รับรองว่าประวัติทางการเงินดีหรือจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงแน่นอน
บทความ ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เป็นหนี้ก้อนโต
