Visa on Arrival คืออะไร
ไม่ว่าจะต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลใด นอกจากพาสปอร์ตแล้ว ‘วีซ่า’ เป็นเอกสารสำคัญที่นักเดินทางต้องนึกถึงอยู่เสมอ แม้บางประเทศจะเข้มงวดกับการออกวีซ่า แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า ในขณะที่หลายประเทศนิยมให้บริการ Visa on Arrival
Visa on Arrival คืออะไร
Visa on Arrival หรือ VOA เป็นวีซ่าท่องเที่ยวซึ่งยื่นขอได้เมื่อเดินทางไปถึงสนามบินของประเทศปลายทางแล้ว โดยสามารถแจ้งความประสงค์และแสดงเอกสารได้ที่จุดตรวจคนเข้าเมืองในประเทศนั้น ๆ การขอวีซ่าประเภทนี้จึงไม่จำเป็นต้องยื่นขอล่วงหน้า อย่างไรก็ตามการจะได้รับ VOA หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประเทศดังนั้นควรศึกษารายละเอียดให้เข้าใจ และเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
Visa on Arrival เหมาะกับใคร
Visa on Arrival เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการยื่นขอวีซ่าก่อนออกเดินทาง หรือผู้ที่มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางแบบเร่งด่วน
Visa on Arrival ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
แต่ละประเทศจะมีข้อกำหนด และค่าธรรมเนียมในการขอ Visa on Arrival แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องใช้
- หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตที่มีอายุคงเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างให้ประทับตราวีซ่า
- รูปถ่ายหน้าตรง (รูปสี พื้นหลังขาว ไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตากันแดด)
- ตั๋วเครื่องบินขาออก เพื่อยืนยันว่าจะเดินทางออกจากประเทศนั้น ๆ ในระยะเวลากำหนด ซึ่งบางประเทศจะไม่อนุญาตให้ขอ VOA หากไม่มีตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับ
- หลักฐานการเงิน เช่น เงินสด (สกุลเงินท้องถิ่น) หรือ statement ธนาคาร เพื่อยืนยันว่ามีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอระหว่างการพำนักอยู่ในประเทศนั้น
- หลักฐานการจองที่พัก เช่น ใบจองโรงแรม เพื่อใช้ยืนยันว่าการเดินทางในทริปนี้ได้มีการสำรองที่พักเรียบร้อยแล้ว
- แบบฟอร์มขอวีซ่า ขอรับได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง
- ค่าธรรมเนียมในการขอ VOA สามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต โดยแต่ละประเทศจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน
บทความ เลือกประกันเดินทางอย่างไรให้เหมาะกับจุดหมายปลายทาง
Visa on Arrival ให้บริการที่ประเทศใดบ้าง
มีหลายประเทศทั่วโลกที่ให้บริการ Visa on Arrival เช่น ไทย , อินเดีย , มัลดีฟส์ , เนปาล , ตุรกี , อียิปต์ , ลาว , มาดากัสการ์ , โบลิเวีย , เอกวาดอร์ เป็นต้น ในขณะที่ไทยรองรับ Visa on Arrival เฉพาะบางประเทศ เช่น จีน , ภูฏาน , อินเดีย , รัสเซีย , เม็กซิโก , ซาอุดีอาระเบีย , ไต้หวัน , เวเนซุเอลา เป็นต้น ทั้งนี้นโยบาย VOA ของแต่ละประเทศอาจมีการปรับเปลี่ยนข้อมูลดังนั้นก่อนออกเดินทางทุกครั้งจึงควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ หรือสถานทูตของประเทศปลายทางที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
Visa on Arrival เป็นหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสำหรับนักเดินทางเนื่องจากไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าซึ่งปกติแล้วใช้เวลานานประมาณ 30 วัน ในขณะที่การทำ VOA สามารถรอรับได้เลยเพราะใช้เวลาเพียง 20-25 นาทีเท่านั้น หากแต่จะต้องจัดเตรียมเอกสารให้พร้อมและมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนอย่าลืมสร้างความอุ่นใจในทุกทริปด้วยประกันการเดินทางที่พร้อมคุ้มครองทุกความเสี่ยงให้กับคุณ
บทความ พาสปอร์ตหายระหว่างไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ต้องทำอย่างไร
