15 ที่เที่ยวคุมาโมโตะ Kumamoto ต้องลองไปเที่ยวสักครั้ง

จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) ตั้งอยู่บนคิวชู ทางตะวันตกของญี่ปุ่น มีภูมิประเทศที่หลากหลายและอากาศอบอุ่น ที่นี่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟอะโซะ (Mt. Aso) หนึ่งในภูเขาไฟที่ใหญ่ติดอันดับโลก

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิธรรมชาติจะสวยงามเป็นพิเศษ คุมาโมโตะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบทั้งธรรมชาติ อาหารอร่อย และวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้

นอกจากนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ คุมะมง (Kumamon) มาสคอตชื่อดังของจังหวัดอีกด้วย หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปเยือนคุมาโมโตะ นี่คือ 15 สถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด

1. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) 

ปราสาทคุมาโมโตะ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1601-1607 โดย ไดเมียวคาโตะ คิโยมาสะ ถือเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โครงสร้างปราสาทมีความแข็งแกร่ง มีกำแพงหินสูง มีทางเดินที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันศัตรู ปัจจุบันกำลังอยู่ในกระบวนการบูรณะและซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องหลังจากตัวปราสาทและกำแพงบางส่วนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ.2016 นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเข้าชมความสวยงามได้ในบางส่วน

ค่าเข้าชม : 800 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto ขึ้นรถรางไปลงที่ป้าย Kumamoto Castle / City Hall แล้วเดินต่อ 10 นาที

2. สวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen Garden) 

เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีสระน้ำสำหรับเดินเล่น ถูกก่อสร้างปี ค.ศ. 1632 เมื่อ โฮโซกาวะ ทาดาโทชิ ขุนนางคนแรกของอาณาจักรฮิโกะ โฮโซกาวะ ได้จัดร้านน้ำชาไว้ที่นี่ ต่อมาสวนได้สร้างเสร็จในสมัยของขุนนางคนที่สาม สึนาโทชิ และได้ตั้งชื่อว่า เซจูเอ็น ตามบทกวี คิเคียวไร โนะ จิ (สุนทรพจน์ต้อนรับ) ของเถา หยวนหมิง กวีชาวจีน สระน้ำภายในสวนเกิดจากน้ำผุดใต้ดิน มีการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นไว้ด้วย อาทิ ภูเขาไฟฟูจิ , ทะเลสาบบิวะ ฯลฯ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่น

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน , เด็ก 200 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto นั่งรถรางไปลงที่ป้าย Suizenji Park แล้วเดินต่อ 5 นาที

3. ภูเขาไฟอาโสะ (Mount Aso)

เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันภูเขาไฟแห่งนี้ที่ยังคุกรุ่นอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมเข้าเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ของภูเขาไฟแห่งนี้ จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมคือที่ปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะเพราะสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยกระเช้า หรือขับรถไปชมวิวทิวทัศน์จากสถานี Daikanbo ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอีกเช่นกัน

ค่าเข้าชม : หากนั่งกระเช้าขึ้นไปจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 เยน แต่ถ้าขับรถขึ้นไปจะมีค่าผ่านทาง 600 เยน

เวลาเปิด-ปิด : –

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto แนะนำให้ขึ้นรถบัสหรือเช่ารถขับขึ้นไป เพราะไม่มีสถานีรถไฟวิ่งผ่าน

4. ศาลเจ้าอะโสะ (Aso Shrine)

ศาลเจ้าอาโสะ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางด้านเหนือของภูเขาอะโสะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าหลักของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงบูรณะและซ่อมแซมจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ.2016 แม้ว่าจะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ก็ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพร 

ค่าเข้าชม :

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น.

การเดินทาง : เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี Miyaji บนสาย JR Hohi สายหลัก

5. Higo Zogan inlay crafting

‘ฮิโกะโซกัง’ เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของ Kumamoto หรือที่เรียกกันว่า ‘งานดามัสกัส’ ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี เทคนิคนี้ใช้การฝังลวดลายลงในโลหะเพื่อสร้างเครื่องประดับและของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการสาธิตและเลือกซื้อสายรัด , ป้าย , จี้ จากช่างฝีมือได้

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี คุมาโมโตะ เดินประมาณ 5 นาที ไปยังสถานีรถบัสคุมาโมโตะโทชิ จากนั้นขึ้นรถบัสไปยังป้ายดานิยามะ แล้วเดินประมาณ 1 นาที ไปยังฮิโกะโซกัง

บทความ แจกฟรี E-Book กติกาและมารยาทในการเที่ยวญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวควรรู้

6. ถนนช้อปปิ้ง Shimotori 

เป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในคุมาโมโตะ ที่นี่คราคร่ำไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ที่นี่เป็นถนนช้อปปิ้งที่พาให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมกับเลือกซื้อของฝากและสินค้าแฟชั่นยอดนิยม โดยย่านดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันของถนนสามสายประกอบไปด้วย ถนนคามิโทริ (Kamitori) , ถนนซึโมโทริ (Shimotori) และถนนซันชินซึไก (Sun Road Shin-shigai) ซึ่งถนนแต่ละสายก็จะมีสินค้าที่แตกต่างกัน

ค่าเข้าชม : –

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-20:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto นั่งรถรางไปลงที่ป้าย Toricho-suji แล้วเดินต่อเล็กน้อย

7. สวนผลไม้ Kichiji-en

ต้องบอกว่าเกาะคิวชูเป็นดินแดนของผลไม้ อาทิ สตรอว์เบอร์รี , องุ่น , แอปเปิล , สาลี่ ส้ม และลูกพลับ มีสวนผลไม้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและเลือกซื้อ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเก็บกินสด ๆ จากต้นได้เลย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทำเกษตรกรรมแบบญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับผลไม้แต่ละชนิด ตามฤดูกาล

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี JR Ueki Station ขึ้นแท็กซี่ประมาณ 5 นาที

8. พิพิธภัณฑ์คุมาโมโตะ (Kumamoto Prefectural Museum) 

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคุมาโมโตะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีนิทรรศการเกี่ยวกับยุคซามูไร วิถีชีวิตดั้งเดิม และธรรมชาติของภูมิภาคคิวชู ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ , งานโมเดล , เครื่องปั้นดินเผา ทุกชิ้นล้วนเป็นงานฝีมือที่มีความประณีตมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะ ประวัติศาสตร์และท้องถิ่นในเชิงลึก

ค่าเข้าชม : 260 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 09:30-16:45 น.

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto Castle แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

9. คุโรคาวะ ออนเซน (Kurokawa Onsen) 

หากมาเยือนภูเขาไฟอะโสะ จะต้องไม่พลาดกับการไปเยือนหมู่บ้านออนเซนที่ตั้งอยู่ทางเหนือของภูเขาไฟ เป็นหมู่บ้านออนเซนที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น คุโรคาวะ ออนเซน บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่สามารถแช่ตัวพร้อมชมวิวธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบเรียวกัง ซึ่งเป็นบ้านทรงโบราณแบบญี่ปุ่นในอดีตให้เลือกพักจำนวนมาก สำหรับใครที่ชื่นชอบความโบราณของบ้านเรือนและความสวยงามในแบบธรรมชาติจะต้องมาเยือนที่แห่งนี้สักครั้ง

ค่าเข้าชม : แช่ออนเซนเริ่มตั้งแต่ 200 – 800 เยน สำหรับที่พักสไตล์เรียวกังราคาเพิ่มต้น 12,000 – 20,000 เยน

เวลาเปิด-ปิด : 08:30-21:00 น.

การเดินทาง : จะมีรถบัสจาก สถานีรถไฟ ฟุกุโอกะ วันละ 2 รอบมาลงที่เมืองแห่งนี้ หรือใช้บริการรถเช่า

10. ศาลเจ้าวิวอ่าวแห่งคุมาโมโตะ (Kuratake Shrine)

ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนภูเขาที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาชาวประมงและชาวเมืองคุมาโมโตะตั้งแต่ครั้งอดีต นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวอ่าวคุมาโมโตะและทิวทัศน์โดยรอบเกาะได้อย่างฉ่ำๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาสักการะและสัมผัสความสงบของธรรมชาติ

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : –

การเดินทาง : แนะนำเช่ารถขับจากสถานี Misumi Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

11. แม่น้ำคุมะ (Kuma River)

แม่น้ำคุมะ เป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น มีความยาวประมาณ 115 กิโลเมตร มีน้ำไหลเชี่ยวตลอดทั้งปี เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการล่องแก่ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามของแม่น้ำสายนี้ 

ค่าเข้าชม : ราคาเริ่มต้น 5,500 เยน สำหรับกิจกรรมล่องแก่ง

เวลาเปิด-ปิด : ตามฤดูกาล

การเดินทาง : จากเมืองคุมาโมโตะสามารถขับรถไปยังจุดปล่อยเรือได้ โดยจะเปิดให้บริการช่วงเดือนมิถุนายน

12. คฤหาสน์ตระกูลโฮโซกาวะ (Hosokawa Gyobutei)

อดีตบ้านพักของตระกูลโฮโซกาวะ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจปกครองคุมาโมโตะในช่วงยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) อาคารหลังนี้เป็นตัวอย่างของคฤหาสน์ซามูไรชั้นสูง  ตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทคุมาโมโตะ ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามในช่วงทศวรรษปี 1990 น่าเสียดายที่คฤหาสน์หลังนี้ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 2016 ปัจจุบันยังปิดให้บริการโดยไม่มีกำหนดเพราะมีการซ่อมแซมและบูรณะขึ้นใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างก็มีความหวังว่าคฤหาสน์หลังนี้จะเปิดให้บริการอีกครั้งภายในปี ค.ศ. 2030

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน , เด็ก 100 เยน

เวลาเปิด-ปิด :  ปิด คาดว่าจะเปิดได้ในปี 2030

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto นั่งรถรางไปลงที่ป้าย Kumamoto Castle แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

13. ชมวิวเมืองคุมาโมโตะ 360 องศาที่ Kumamoto City Hall

อาคารศาลากลางเมืองคุมาโมโตะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ชั้นบนสุดเพื่อชมวิวเมืองคุมาโมโตะในมุมกว้างแบบ 360 องศา ที่สำคัญคือ ‘ฟรี’ ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่เก็บค่าธรรมเนียม ใครได้แวะมาเยือนอย่าลืมที่จะถ่ายรูปวิวเมืองเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด :  08:30 – 22:00 น.

การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto นั่งรถรางไปลงที่ City Hall Station แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที

14. ศาลเจ้าเก่าแก่ Kumamoto Inari Shrine 

ศาลเจ้าอินาริ เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความเก่าแก่และมีเอกลักษณ์ด้วยเสาโทริอิสีแดงเรียงรายกันเป็นแนวยาว เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับขอพรเกี่ยวกับโชคลาภและการค้า ผู้คนนิยมมาสักการะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะมีเทศกาลฮัตสึอุมะไทไซ ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ที่จัดขึ้นทุกปี

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด :  06:00 – 18:00 น.

การเดินทาง: จากสถานี Kumamoto นั่งรถบัสไปลงที่ป้ายใกล้ศาลเจ้าแล้วเดินต่อ

15. แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ศาลากลางจังหวัดคุมาโมโตะ

ใครที่เป็นแฟนวันพีช (One Piece) ไม่ควรพลาด เพราะบริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัดคุมาโมโตะแห่งนี้เต็มไปด้วยลูกเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่ โดยทางจังหวัดสร้างหุ่นจำลองขนาดเท่าคนจริงเพื่อเป็นการให้เกียรติและขอบคุณอาจารย์โอดะ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังจากเรื่องวันพีช ที่ได้บริจาคเงินจำนวน 800 ล้านเยน ในการซ่อมแซมและบูรณะอาคารบ้านเรือนและศาลากลางจังหวัดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งที่นี่เป็นบ้านเกิดของอาจารย์โอดะ 

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาเปิด-ปิด :  –

การเดินทาง : รถราง Kumamoto City Tram ลงที่สถานี Shiritsu Taiikukan-mae และเดินต่อประมาณ 10 นาที

คุมาโมโตะเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งการช้อปปิ้ง สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ชมพิพิธภัณฑ์ ผ่อนคลายที่ออนเซน ล่องแก่งในแม่น้ำ และเยี่ยมชมศาลเจ้าที่มีวิวสวยงาม การเดินทางสะดวกและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อป สายเที่ยว หรือสายธรรมชาติ ที่นี่มีอะไรให้คุณค้นพบแน่นอน

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ