5 สถานที่ห้ามพลาดในญี่ปุ่น ช่วงเดือนพฤษภาคม
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวช่วงใดของประเทศญี่ปุ่นก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชื่นชมตลอดทั้งปี ในบางช่วงเวลายังมีกิจกรรม หรือขนบธรรมเนียมประเพณีในแต่ละพื้นที่ทำการแสดงให้ชมอีกด้วย โดยวันนี้จะพาไปรู้จักกับ 5 ที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคมที่ไม่ควรพลาด จะมีที่ใดบ้างไปดูกัน
1.Shikisainooka Hokkaido
เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงของฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้สภาพอากาศเย็นสบายและเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นกันมากที่สุดฤดูกาลหนึ่ง เพราะเป็นการมาเยี่ยมชมสีสันของธรรมชาติที่เพิ่งตื่นขึ้นจากการหลับใหลในช่วงฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านไป สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka) สวนสวรรค์แห่งฮอกไกโด ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดแห่งเมืองบิเอะ โดยมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เนินสี่ฤดู’ เนื่องจากมีดอกไม้นานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์จัดเรียงไปมาสลับสีสันกันอย่างสวยงาม โดยสวนดอกไม้ชิคิไซโนะโอกะ มีขนาดใหญ่พื้นที่กว้างถึง 7 เฮกเตอร์ (เท่ากับ 43.75 ไร่) นอกจากความงามของดอกไม้นานาพรรณแล้ว ในพื้นที่ดังกล่าวท่านจะพบกับฟาร์มอัลปากา สีขาวสวย ที่รอให้คุณมาสัมผัสกับความน่ารักของสัตว์ขนปุยนี้
สถานที่ตั้ง : 071-0473 Shinsei Daisan, Biei-cho, Kamikawa-gun, Hokkaido
ช่วงเวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤษภาคม เปิดเวลา 8:40-17:00 (Alpaca farm ปิดก่อนเวลา 30 นาที )
ค่าเข้าหรือค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : จะมีรถนำเที่ยวในฟาร์มคนละประมาณ 500 เยน, รถกอล์ฟเช่าสำหรับ 4 คนประมาณ 2200 เยนต่อ 50นาที
การเดินทาง : สำหรับผู้ที่เดินทางมาโดยรถไฟสาย JR ฟุราโนะ ให้ลงที่สถานีมิมะอุชิ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 25 นาที หรือรถไฟ JR Furano Line ลงที่สถานี Biei ต่อด้วยรถยนต์ประมาณ12 นาที
เว็บไซต์ : https://www.shikisainooka.jp/
2.Ashikaga Flower Park
หากใครได้เป็นแฟนคลับของอะนิเมะชื่อดังอย่าง Dragon Slayer หรือดาบพิฆาตอสูร จะต้องไม่พลาดกับการมาเที่ยวสวนอะชิคางะ สวนดอกไม้ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยมีพื้นที่มากถึง 60 ไร่ ไฮไลท์ของสวนดอกไม้อะชิคางะคือดอกวิสทีเรียที่มีสีม่วงสวยงาม บานสะพรั่งห้อยระย้าอยู่เต็มสวน ภายในสวนจะพบกับต้นวิสทีเรียที่มีอายุเก่าแก่มากถึง 150 ปีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่มีความยาวมากกว่า 80 เมตร ให้คุณได้ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจนี้ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการประดับไฟให้สวยงามเต็มสวนอะชิคางะอีกด้วย
สถานที่ตั้ง : 607 Hasamacho, Ashikaga, Tochigi 329-4216
ช่วงเวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 20.30 น. (เฉพาะช่วงเทศกาลดอกวิสทีเรีย 13 เม.ย. – 15 พ.ค. 2024)
ค่าเข้าหรือค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : เด็ก 500-1,100 เยน ผู้ใหญ่ 900-2,200 เยน (ช่วงวันที่ 1 เม.ย. – 31 พ.ค. 2024)
การเดินทาง : รถไฟจากสถานีโตเกียวใช้รถไฟสายเคย์ฮิงโทโฮคุ ถึงสถานีอุเอโนะเปลี่ยนไปขึ้น JR สายอุสึโนะมิยะ ถึงสถานีโอะยามะ ขึ้น JR สายเรียวโม ลงสถานีอะชิคางะ เดินต่อไม่เกิน 5 นาที
เว็บไซต์ : https://www.ashikaga.co.jp/
3.Showakinen Park
สวนโชวะ คิเนน หรือ โชวะ เมโมเรียล พาร์ค หนึ่งในสวนอนุสรณ์ที่มีความสำคัญและสวยที่สุดแห่งหนึ่ง โดยสวนโชวะ คิเนน ถูกสร้างมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของจักรพรรดิโชวะ มีพื้นที่กว้างถึง 16,300 เอเคอร์ (หรือเท่ากับ 41,239 ไร่) เป็นสวนดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามไม่แพ้สวนดอกไม้ที่อื่น ๆ โดยสวนดังกล่าวตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองโตเกียว อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Tachikawa Station ภายในแบ่งออกเป็น 5 โซน สามารถที่จะเดินเท้าและใช้จักรยานในการปั่นรอบ ๆ เพื่อเยี่ยมชมความสวยงามของสวนแห่งนี้ได้ ภายในมีกิจกรรมมากมายให้เข้าร่วม เช่น ปั่นจักรยาน, พายเรือ , กิจกรรมจานร่อน , สนามเปตอง , สนามฟุตซอล , สระว่ายน้ำ , ลานบาร์บีคิว , มีร้านอาหารที่มีทิวทัศน์ทะเลสาบให้ได้เพลิดเพลินระหว่างรับประทาน รวมถึงมีศูนย์วัฒนธรรมและอาคารนิทรรศการดอกไม้ให้เข้าชมด้วย ซึ่งในสวนแห่งนี้ได้จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เข้าเยี่ยมชมทุกคนทุกวัยตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยชรา สวนโชวะไคเนนจึงเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนทุกรูปแบบทั้งแบบครอบครัว เพื่อน คู่รัก หรือแม้แต่การมาทัศนศึกษาก็ตาม
สถานที่ตั้ง : 3173 Midoricho, Tachikawa , Tokyo 190-0014
ช่วงเวลาเปิด-ปิด : 9:30-17:00 น.
ค่าเข้าหรือค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าฟรี บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 450 เยน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 210 เยน
การเดินทาง : เดินเท้าประมาณ 10 นาทีจากทางออกทิศเหนือของสถานีทาชิคาวะ บนสายจูโอ, เดินประมาณ 2 นาทีจากทางออกโคเอ็นของสถานีนิชิ-ทาชิคาวะ บนสายโอเมะ, เดินประมาณ 10 นาทีจากทางออกทิศเหนือของสถานี Higashi-Nakagami บนสาย Ome
เว็บไซต์ : https://www.showakinen-koen.jp/
4.Awaji hana sajiki
เกาะอาวาจิตั้งอยู่ในเขตทะเลเซโตะใน อยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะฮอนชูนและเกาะชิโกะคุ ในอดีตเกาะอาวาจิทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะชิโกะคุ เกาะอาวาจิมีสถานที่สำคัญและได้รับการบันทึกว่ามีสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก โดยสะพานแขวนดังกล่าวมีชื่อว่าสะพานอะคะชิไคเคียวที่มีความยาวมากถึงเกือบ 4 กิโลเมตร ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างเกาะอาวาจิและเมืองโกเบด้วย เนื่องจากเกาะอาวาจิมีสภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี อาจมีฝนตกบ้างเพียงเล็กน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าธรรมชาติที่ไม่มีการบุกรุก จึงยังมีดอกไม้ ต้นไม้นานาชนิดเติบโต มีสีสันสวยงาม หนึ่งในนั้นคือ ‘ทุ่งดอกนาโนะฮานะ’ หรือทุ่งดอกเรปซีด(Rapeseed) ที่มีสีเหลือง สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามเขตชนบทในประเทศญี่ปุ่น … แต่ที่อาวาจิ ดอกเรปซีดจะขึ้นปกคลุมไปทั่วทั้งเนินเขา ทำให้เกิดภาพทุ่งดอกไม้สีเหลืองขนาดใหญ่ตัดกับสีเขียวของต้นไม้และหญ้า ให้ทัศนียภาพที่มีสีสันสวยงามยิ่งนัก นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกเวอร์บีน่าและดอกคอสมอสให้ได้รับชมอีกด้วย สำหรับใครที่แวะมาเยี่ยมชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้ อย่าลืมไปดูความอัศจรรย์ของกระแสน้ำวนนารุโตะที่อาจมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากถึง 30 เมตรด้วย
สถานที่ตั้ง : เกาะอาวาจิ
ช่วงเวลาเปิด-ปิด : 9:00-17:00 น.
ค่าเข้าหรือค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เนื่องจากทุ่งดอกไม้ Awaji hana sajiki ตั้งอยู่บนเกาะอาวจิ ใกล้กับเมืองโกเบ ทำให้เดินทางได้หลายเส้นทางทั้งทางบก ทางอากาศ ในที่นี้ขอแนะนำการเดินทางด้วยรถไฟ โดยนั่งรถไฟสาย JR Tokaido-Sanyo จากสถานีโอซาก้า ไปลงที่สถานี Maiko Station จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไปอีกประมาณ 15-20 นาที ก็จะถึงทุ่งดอกไม้บนเนินเขาที่สวยงาม
เว็บไซต์ : https://awajihanasajiki.jp/
5.Kawachi Fuji Fukuoka
สวนคาวาจิ วิสทีเรีย เป็นสวนส่วนตัวบนเนินเขาสีเขียวชอุ่มที่ตั้งอยู่ที่เมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกจากการจัดแสดงดอกวิสทีเรียที่สวยตระการตา สวนแห่งนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมตามฤดูกาลระหว่างฤดูดอกวิสทีเรีย ซึ่งปกติจะบานสะพรั่งพร้อมกันช่วงประมาณปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ไฮไลต์ของสวน Kawachi Fuji แห่งนี้คืออุโมงค์ดอกฟูจิ หรือดอกวิสทีเรีย ที่ทอดยาวมากกว่า 100 เมตร มากกว่า 22 สายพันธุ์ พร้อมกลิ่นหอมของดอกวิสทีเรียตลอดเส้นทางที่เดินผ่าน พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่สวยงามเป็นที่ระลึก ใจกลางสวนยังมีโดมดอกวิสทีเรียและต้นวิสทีเรียที่มีอายุมากถึง 100 ปี รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
สถานที่ตั้ง : 2 Chome-2-48 Kawachi, Yahatahigashi Ward, Kitakyushu, Fukuoka 805-0045
ช่วงเวลาเปิด-ปิด : 8:00-18:00 น.
ค่าเข้าหรือค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าฟรี สูงสุด 2 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน หรือสามารถซื้อตั๋วราคาถูกผ่านทาง 7-Eleven และ Lawsons ในราคา 500 เยน และอาจมีเก็บเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับสภาพของดอกไม้ในขณะนั้น
การเดินทาง : แนะนำให้ใช้รถไฟสาย Kagoshima Main Line จากสถานี JR Hakata (Fukuoka) มาลงที่สถานี JR Yahata จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 ลงที่ป้าย Kawachi Elementary School เดินต่ออีกประมาณ 10 – 15 นาที
เว็บไซต์ : https://kawachi-fujien.com/#google_vignette
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 สถานที่ห้ามพลาดหากต้องมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤษภาคม บอกได้เลยว่าเป็น 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด … สำหรับใครมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่น ณ ช่วงเวลาดังกล่าว อย่าลืมที่จะแวะไปเที่ยวให้ได้นะครับ! ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ
