การฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยงคืออะไร จำเป็นหรือไม่?

มั่นใจว่าคนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่คงได้ยินกันมาแล้วว่าในปี 2569 กรุงเทพฯ จะมีการเริ่มบังคับใช้กฎหมายควบคุมการเลี้ยงสัตว์และปล่อยสัตว์ โดยนอกจากจะมีการกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่เลี้ยงแล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงยังต้องนำสัตว์ไปจดทะเบียนและฝังไมโครชิป (Microchip) ด้วย ซึ่งหากฝ่าฝืนไม่นำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิปตามที่กำหนด เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท อย่างไรก็ตามการฝังไมโครชิปนอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว ยังมีประโยชน์กับเจ้าของด้วย
การฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยงเป็นการยืนยันตัวตนของสัตว์เลี้ยงของตนเอง
สำหรับการฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยงคือ การฝังชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กประมาณเมล็ดข้าวสารบรรจุในครอบแก้วไว้ใต้ผิวหนังบริเวณกลางหลังระหว่างกลางของไหล่ของสัตว์เลี้ยง ซึ่งบนไมโครชิปจะมีรหัสแสดงข้อมูลของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงที่สามารถอ่านได้ด้วยเครื่องอ่านรหัสไมโครชิป โดยมีประโยชน์ต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงดังนี้
- ระบุตัวต้นของเจ้าของได้ง่ายขึ้น
เรียกว่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หลาย ๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทย กำหนดให้เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิป เพราะอย่างที่รู้กันแล้วว่าบนไมโครชิปจะมีเลขรหัสที่แสดงผลข้อมูลชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของ รวมถึงข้อมูลของสัตว์เลี้ยง ด้วยเหตุนี้ไมโครชิปจึงเปรียบเสมือนบัตรประชาชนของสัตว์เลี้ยง เวลาเกิดกรณีสัตว์เลี้ยงเกิดอุบัติเหตุนอกบ้านหรือหนีหายออกจากบ้าน ไมโครชิปจะมีข้อมูลเหล่านี้ระบุไว้ซึ่งจะช่วยให้สามารถตามหาเจ้าของได้ถูกต้องและรวดเร็ว อีกทั้งสัตว์เลี้ยงยังได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

- ใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของ
ถึงแม้ว่ากรณีพิพาทเรื่องสิทธิการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่ก็มีให้เห็นบ้างในกรณีของสัตว์สายพันธุ์ต่างประเทศที่มีราคาแพง นกเขาหรือไก่ชน เพราะสามารถนำไปขายได้ ด้วยเหตุนี้การฝังไมโครชิปนอกจากจะสามารถใช้เป็นข้อมูลในการนำไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามหาสัตว์เลี้ยงของตัวเองแล้ว หากเกิดกรณีพิพาจแย่งชิงความเป็นเจ้าของ ไมโครชิปจะทำให้ตัดสินหาเจ้าของที่แท้จริงได้ง่ายขึ้น
- ใช้ตรวจสอบเพ็ดดีกรีของสัตว์เลี้ยง
ปัญหาสัตว์เลี้ยงไม่ตรงปก ไม่ตรงสายพันธุ์ เป็นหนึ่งในปัญหาที่คนซื้อสัตว์เลี้ยงจำนวนไม่น้อยเคยเจอ แต่หากมีการฝังไม่โครชิพจะช่วยให้ตรวจสอบสายพันธุ์และตำหนิของสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงสืบค้นสายพันธุ์พ่อแม่และเครือญาติของสัตว์เลี้ยงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ้าของที่เป็นลูกค้าสบายใจว่าตัวเองได้สัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ที่แข็งแรงจากพ่อแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์และเป็นตัวเดียวกับความต้องการแล้ว สำหรับผู้ขายเองก็สามารถออกใบรับรองให้กับลูกค้าได้อย่างมั่นใจหรือเพิ่มราคาขายให้สูงขึ้นได้อีกด้วยเพราะสามารถระบุที่มาที่ไปของสัตว์เลี้ยงได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง

- เป็นหลักฐานสำหรับใช้ในเข้าร่วมประกวดสัตว์เลี้ยง
เพราะในการประกวดมีสัตว์เลี้ยงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การประกวดทั้งระดับประเทศและระดับสากลมีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า สัตว์เลี้ยงที่เข้าร่วมประกวดต้องมีการฝังไมโครชิปทุกตัว ซึ่งนอกจากเป็นการยืนยันตัวตนของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของแล้ว หากเกิดกรณีสัตว์เลี้ยงพลัดหลงกับเจ้าของ หรือสลับตัวกับสัตว์ของคนอื่น จะช่วยให้ตามหาเจ้าของได้ง่ายขึ้น
- ใช้สำหรับประกอบการเดินทางไปต่างประเทศ
ปัจจุบันการพาสัตว์เลี้ยงเดินทางไปต่างประเทศนอกจากต้องพาสัตว์เลี้ยงฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าหรือวัคซีนชนิดอื่น ๆ ตามที่ประเทศปลายทางกำหนด อย่างน้อย 30 วัน และไม่เกิน 1 ปีแล้ว หลายประเทศยังออกกฎหมายว่าสัตว์เลี้ยงที่จะเดินทางเข้าประเทศต้องฝังไมโครชิปด้วย
จากข้อมูลจะเห็นว่าการฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์มากในการระบุตัวตนของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของในกรณีหากสัตว์เลี้ยงหายไปจากบ้าน กรณีประสบอุบัติเหตุนอกบ้าน ช่วยให้ตามหาเจ้าของได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสัตว์และปล่อยสัตว์ ซึ่งถึงแม้จะมีการบังคับใช้ในกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดแรก แต่ถึงอย่างนั้นในอนาคตอาจมีการขยายบังคับใช้ไปจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศเช่นกัน สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นกังวลเรื่องฝังไมโครชิปบอกเลยว่าหมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะไมโครชิปเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัย ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ ฝังครั้งเดียวสามารถใช้งานได้ตลอดอายุของสัตว์เลี้ยง ไม่มีผลข้างเคียง และไร้ผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง โดยการฝังไมโครชิปสามารถดำเนินการได้ในสัตว์เลี้ยงที่มีอายุตั้งแต่ 30 – 45 วัน
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ