ผ่าตัดกระเพาะใช้ประกันสังคมได้ไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าการผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนที่ได้ผลดี แต่เนื่องด้วยเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงจึงทำให้หลายคนรู้สึกลังเลไม่กล้าทำแม้ว่าจะเข้าเกณฑ์ที่สามารถผ่าตัดได้ก็ตาม อย่างไรก็ตามเพื่อช่วยให้ผู้ประกันตนของประกันสังคมสามารถรักษาด้วยวิธีนี้ง่ายขึ้น ประกันสังคมจึงได้เพิ่มสิทธิ์การผ่าตัดกระเพาะอาหารให้กับผู้ประกันตน ส่วนจะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
การผ่าตัดกระเพาะคืออะไร
สำหรับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร หรือ Bariatric Surgery หมายถึงการผ่าตัดกระเพาะอาหารให้มีกระเพาะเล็กลง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้กระเพาะอาหารดูดซึมอาหารน้อยลงและลดการทำงานของฮอร์โมนความอยากอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้การผ่าตัดกระเพาะอาหารจึงเป็นวิธีการรักษาในผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีค่าดัชนีมวลกายและโรคเรื้อรังตามที่กำหนด ผู้ป่วยโรคอ้วนที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย และผู้ที่ต้องการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่ไม่มีข้อห้ามในการผ่าตัด โดยการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่นิยมมี 2 วิธี คือ
ประกันสังคมครอบคลุมการผ่าตัดกระเพาะหรือไม่

ปัจจุบันการผ่าตัดกระเพาะอาหารมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2 – 3 แสนบาทขึ้นไป จึงทำให้หลายคนเป็นกังวลไม่กล้ารักษาโรคอ้วนด้วยวิธีการผ่าตัดกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ แต่อาจมีค่าส่วนต่างเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกเข้ารับการรักษา
เงื่อนไขในการใช้สิทธิ์ประกันสังคม
แม้ว่าผู้ประกันตนทุกคนสามารถผ่าตัดกระเพาะอาหารตามสิทธิ์ประกันสังคม แต่ถึงอย่างนั้นผู้ประกันตนจะสามารถใช้สิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีภาวะโรคอ้วนและเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการผ่าตัดกระเพาะ
ในการใช้สิทธิ์ประกันสังคมเพื่อผ่าตัดกระเพาะอาหาร ในขั้นแรก แนะนำให้ใช้บริการในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมของตัวเองเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจวิเคราะห์ค่าดัชนีมวล ตรวจร่างกาย และตรวจระบบเลือด สำหรับเป็นข้อมูลพิจารณาความเสี่ยงและความพร้อมของผู้ป่วย หากเข้าเกณฑ์ตามที่แพทย์ระบุสามารถเข้าผ่าตัดกระเพาะอาหารโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้เลย ซึ่งการผ่าตัดจะใช้เวลาเพียง 1 – 2 วัน แต่ในช่วงปีแรกผู้ป่วยต้องมาตรวจซ้ำทุก 3 เดือน เพื่อประเมินผลการผ่าตัด , สุขภาพของผู้ป่วยหลังการผ่าตัด , การวางแผนการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร และภาวะแทรกซ้อนอื่น
ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
ถึงผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร แต่ประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเฉพาะในส่วนของค่าตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด , ค่าแพทย์ดำเนินการผ่าตัด , ค่าวิสัญญีแพทย์ , ค่าห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด , ค่าห้องพักผู้ป่วย , ค่าอาหาร และค่าพยาบาล หากมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่กำหนดผู้ป่วยจะต้องจ่ายส่วนต่างเอง ดังนั้นแนะนำให้สอบถามค่าใช้จ่ายกับแผนกการเงินของโรงพยาบาลเกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะอาหารให้ชัดเจน ทั้งนี้โรงพยาบาลส่วนใหญ่จะแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนเกินโดยประมาณให้กับผู้ป่วยก่อนผ่าตัดทราบก่อนการรักษาอยู่แล้ว
โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้
สำหรับกาใช้สิทธิ์ประกันสังคมเพื่อผ่าตัดกระเพาะอาหาร ปัจจุบันสามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนในเครือข่ายของประกันสังคม เช่น คลินิกโรคอ้วนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , ศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องลดขนาดกระเพาะอาหาร , โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ , คลินิกโรคอ้วน โรงพยาบาลราชวิถี , ศูนย์ Doodee Center โรงพยาบาลศิครินทร์ , โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ , โรงพยาบาลลาดพร้าว , โรงพยาบาลลานนา , โรงพยาบาลจุฬารัตน์ระยอง เป็นต้น
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ผู้ประกันตนในยุคปัจจุบัน แต่ก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดผู้ประกันควรพยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เพราะถึงการผ่าตัดกระเพาะจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจเกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง ทั้งปัญหากรดไหลย้อน , อาการคลื่นไส้อาเจียน , ภาวะดูดซึมสารอาหารผิดปกติส่งผลให้เกิดปัญหาขาดสารอาหาร , แผลในกระเพาะอาหาร, โอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดี , ปัญหาระบบขับถ่าย และภาวะผิดปกติทางจิตใจ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ทางประกันสังคมได้ทำการระงับการผ่าตัดกระเพาะของผู้ประกันตนออกไปก่อน เป็นช่วงระยะรอคอยรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์เพื่อเข้ารับการรักษา หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อไหร่ จะทำการอัพเดทข้อมูลอีกครั้ง
ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ