รถยนต์เกียร์ออโต้ หากขับโดยใช้ 2 เท้า อันตรายจริงหรือไม่?

ถือเป็นเรื่องถกเถียงกันมานานเรื่องการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ว่าสามารถใช้ 2 เท้าได้ไหม เพราะบางคนบอกว่าสามารถทำได้ แต่มีไม่น้อยที่คิดว่าการขับโดยใช้ 2 เท้ามีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการขับรถเป็นเรื่องส่วนบุคคลและขึ้นอยู่ความถนัดความสบายใจส่วนบุคคล แต่ในความเป็นจริงแล้วต้องบอกว่าการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ 2 เท้ามีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าการขับด้วยเท้าเดียว เหตุผลเพราะ
- เวลาขับขี่อาจเผลอเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกัน
โดยปกติแล้วรถยนต์เกียร์ออโต้จะแยกระบบเบรกและระบบคันเร่งออกจากกันอย่างชัดเจน โดยวางตำแหน่งแป้นเบรกไว้ตำแหน่งกึ่งกลาง ขณะที่แป้นคันเร่งอยู่บริเวณตำแหน่งริมขวาสุดและมีความสูงน้อยกว่าแป้นเบรก ซึ่งแน่นอนเป็นตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วยการเท้าเพียงข้างเดียว เนื่องจากสามารถขยับปรับเปลี่ยนตำแหน่งเท้าได้ง่าย แต่จากตำแหน่งของระบบเบรกและคันเร่ง หากฝืนใช้ 2 เท้าในการขับขี่รถยนต์ออโต้อาจเผลอลืมตัวเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกัน ทำให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้ช้าลงเนื่องจากเครื่องยนต์ส่งกำลังไปที่ล้อพร้อมกับที่ระบบเบรกทำงาน ส่งผลให้รถยนต์เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงาน สิ้นเปลืองผ้าเบรก และปัญหาผ้าเบรกไหม้ ทั้งนี้ในทางตรงกันข้ามหากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องหยุดรถกระทันหัน อาจทำให้เบรกไม่ทันเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมาได้

- สร้างความสับสนให้กับรถยนต์คันหลัง
การเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกันไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ชับขี่และผู้โดยสารเป็นอันตราย แต่ยังทำให้เพื่อนร่วมทางเสี่ยงประสบอุบัติเหตุไปด้วย เพราะเวลาเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกับ ไฟเบรกด้านท้ายรถจะสว่างขึ้นตามปกติ แต่รถยนต์จะเคลื่อนที่ไปช้างหน้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถยนต์ที่ตามมาที่หลังจะรู้สึกสับสนว่าจะเคลื่อนที่หรือเบรก และหากโชคร้ายนำมาซึ่งอุบัติเหตุชนท้ายได้เช่นเดียวกัน
- ขาดความแม่นยำในการควบคุมรถยนต์
ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่าตัวเองสามารถขับรถยนต์เกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้าพร้อมกัน มากกว่าการใช้เท้าขวาเพียงเท้าเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความเสี่ยงเรื่องความแม่นยำในการควบคุมรถยนต์ เพราะการใช้เท้าซ้ายในการเหยียบเบรกอาจทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ไม่ดีเท่ากับการใช้เท้าขวา ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมระยะเบรกและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการเบรกกะทันหันที่ต้องการระยะเบรกที่สั้นที่สุด
- ทำให้รู้สึกเมื่อยล้ามากกว่า
เพราะการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้าพร้อมกัน ต้องเกร็งขาและแผ่นหลังในการควบคุมรถยนต์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นท่านั่งที่หลักสรีระไม่เหมาะกับตำแหน่งของเบรกและคันเร่ง จึงอาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าและนำมาซึ่งปัญหาปวดเมื่อยเรื้อรังภายหลัง
- ไม่สามารถทรงตัวได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เหตุผลที่แนะนำให้ใช้เท้าขวาเท้าในการควบคุมเบรกและคันเร่งเวลาขับรถยนต์เกียร์ออโต้ เนื่องด้วยต้องการผู้ขับขี่ใช้เท้าซ้ายในการยันตัวเองไว้ ซึ่งทำให้ไม่เสียหลักพุ่งไปกระแทกกับพวงมาลัยเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ เป็นการช่วยป้องกันการบาดเจ็บบริเวณหน้าและหน้าอก

ข้อควรรู้เเละระวัง หากขับรถเกียร์ Auto ด้วย 2 เท้า
สำหรับคนที่ยังคงอยากจะขับรถยนต์เกียร์ Auto ด้วย 2 เท้า เพราะรู้สึกถนัดมากกว่า หรือฝึกฝนการขับขี่ด้วย 2 เท้ามาตั้งแต่ต้นจึงไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาขับเท้าเดียวได้ ด้วยเหตุนี้เพื่อความปลอดภัยมีเรื่องควรรู้เมื่อขับรถยนต์เกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้ามาฝาก
- ไม่ควรเหยียบเบรกบ่อย ๆ
เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนขับรถยนต์เกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้า แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงอันตรายนั้นหนีไม่พ้นเรื่องความรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับการเหยียบเบรก หรือความรู้สึกกลัวว่าจะเปลี่ยนเท้าไม่ทันหากมีเหตุให้ต้องหยุดรถ
กะทันหัน จึงวางเท้าไว้ที่แป้นเบรกตลอดเวลา แต่อย่างนั้นการวางเท้าที่ตำแหน่งเบรกอาจเผลอเหยียบเบรกอยู่บ่อย ๆ ทำให้รถสูญเสียความเร็ว ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ระบบเบรกกะทันหัน หรือ ABS สึกหรอเร็วกว่าปกติ พื้นผิวยางเกิดความร้อน และผ้าเบรกเสื่อมสภาพก่อนเวลาสมควร
- ควรตรวจสอบว่ารถยนต์มีระบบ BOS
ระบบ BOS หรือ Brake Override System เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งจะทำงานเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่เหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกัน ระบบ BOS จะตัดการทำงานของคันเร่งเพื่อไม่ให้รถยนต์พุ่งไปข้างหน้า รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดกรณีคันเร่งค้างที่ถึงแม้จะมีโอกาสน้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้และเป็นอันตรายสูงด้วย
จะเห็นได้ว่าถึงการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้า จะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายและขึ้นอยู่กับความถนัดส่วนบุคคล แต่การขับด้วย 2 เท้า มาพร้อมโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าการขับด้วยเท้าเดียว รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้ขับขี่และทำให้รถสึกหรอเร็วกว่าปกติ เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ขับรถ 2 เท้า หรือกำลังหัดขับรถยนต์เกียร์ออโต้อยู่ควรเริ่มฝึกหัดด้วยการชับขี่ด้วยเท้าขวาข้างเดียวจะทำให้ปลอดภัยและถูกต้องมากกว่า