ศึกร้านกาแฟปี 2025: จะอยู่รอด ต้องมีมากกว่ากาแฟอร่อย

ชาและกาแฟ จัดว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีคนดื่มมากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำเปล่า บางคนต้องดื่มกาแฟทุกวัน และหลายคนก็ดื่มมากกว่าวันละหนึ่งแก้ว บางคนเมื่อเริ่มดื่มกาแฟแล้ว จากเดิมที่ดื่มเพื่อความสดชื่นก็กลายเป็นความชอบที่ขาดหายไม่ได้ ต้องดื่มต้องดริ้งค์ในทุก ๆ วัน ด้วยเหตุความชอบและความต้องการของตลาดเหล่านี้จึงไม่น่าแปลกใจหากร้านกาแฟยังเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่คิดทำธุรกิจของตัวเองในปี 2025 อย่างไรก็ตามการแข่งขันที่สูงขึ้นก็มาพร้อมกับความท้าทายสำหรับทั้งมือใหม่และมือเก่าในวงการ ในบทความนี้จะพาทุกท่านทราบกลยุทธ์

ที่จะพาร้านกาแฟอยู่รอดในปี 2025 จะต้องทำอย่างไร ไปดูกัน

หากลองดูรอบตัว ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในเมืองไทย คุณจะเห็นร้านกาแฟเรียงรายให้เลือกซื้อ ตั้งแต่คาเฟ่ในร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงคาเฟ่แบบแสตนด์อะโลนที่มาพร้อมกับจุดให้ถ่ายรูปเช็คอิน ถึงแม้ว่านั่นอาจแสดงว่าการเปิดร้านกาแฟทำได้ไม่ยากนัก แต่หากจะเปิดร้านกาแฟใหม่ในปี 2025 ก็มีความท้าทายหลายด้านให้ตระหนัก นั่นคือ

1. หลายพื้นที่มีร้านจำนวนมากให้เลือก

หากสังเกตตามตึกออฟฟิศ จะพบว่าในตึกเดียวมีร้านกาแฟหลายแห่งให้เลือก ทั้งแบบที่มีแฟรนไชส์เป็นที่รู้จักและร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว จุดนี้ทำให้หลายร้านเจอต้นทุนสูงตั้งแต่ปีแรก เพราะหากไม่มีจุดขายที่ดึงดูดใจจริง ๆ ก็อาจไปต่อไม่ได้

2. ต้นทุนที่สูงขึ้น 

ปี 2025 เป็นปีที่เมืองไทยเจอปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าจากหลายด้าน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลตามมาทันทีคือต้นทุนค่าวัตถุดิบสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ค่าแรงก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มในหลายจังหวัด ความท้าทายคือจำเป็นต้องเพิ่มมูลค่าสินค้า หากปรับราคาขึ้นมากเกินไปโดยที่สินค้ายังเหมือนเดิมก็เป็นไปได้ว่าลูกค้าจะไม่กลับมาถ้าเจอตัวเลือกที่รู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า

3. แนวโน้มความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป 

ทุกวันนี้ลูกค้าไม่ได้มองแค่ร้านของคุณจะมีกาแฟที่อร่อยหรือไม่ แต่ยังมีปัจจัยอื่นมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น การบริการ , บรรยากาศร้าน , ความหลากหลายของเมนู , ที่จอดรถ , การบริการผ่านแอพพลิเคชัน ฯลฯ ร้านกาแฟไม่ว่าจะเปิดมาแล้วสักพักหรือเพิ่งเปิดใหม่ก็จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าด้วยเพื่อให้ร้านอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

แม้ว่าการเปิดร้านกาแฟในปี 2025 จะมีความท้าทายพอสมควร แต่การเปิดร้านให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ต่อไปนี้คือแนวทางที่คนพร้อมเปิดร้านกาแฟสามารถนำไปพิจารณาเลือกใช้ได้

1. ปลอดภัยที่สุดคือซื้อแฟรนไชส์

หากคุณไม่ได้มีทำเลร้านที่จะกลายเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูป การเริ่มต้นด้วยวิธีซื้อแฟรนไชส์ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย มีแฟรนไชส์ร้านกาแฟให้เลือกลงทุนหลายราย โดยแต่ละรายก็มีจุดเด่น ระดับราคาของกาแฟ และเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่างกัน แม้ว่าการเปิดร้านแฟรนไชส์จะใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก แต่จุดเด่นคือมีผู้วางแผนธุรกิจให้ อีกทั้งการที่แฟรนไชส์ติดตลาดอยู่แล้วก็จะช่วยเพิ่มโอกาสอยู่รอดให้ร้านของคุณได้มากขึ้น

2. สร้างตัวตนแบรนด์ให้ชัดเจน 

หากตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดร้านของตัวเองโดยไม่ซื้อแฟรนไชส์ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีคือการสร้างตัวตนให้แบรนด์ เพราะไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ ความชัดเจนของแบรนด์จะเป็นตัวสร้างภาพจำ หรือ Brand Image ให้กับลูกค้า เช่น หากร้านคุณเป็นสาย Specialty (กาแฟที่มี Story และมีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเองทั้งรสชาติ วิธีการคั่ว และแหล่งผลิต) ก็จะดึงดูดลูกค้าในกลุ่มที่มองหาความพิเศษจากการดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว หากเป็นคาเฟ่ที่มีอาหารด้วยก็จะดึงดูดลูกค้าที่มองหาทั้งการกินอาหารและดื่มกาแฟ หากเด่นเรื่องบรรยากาศและรสชาติกาแฟก็จะดึงดูดสายทำคอนเทนต์เข้ามาที่ร้านได้

3. ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์และพร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา 

แพลตฟอร์มอย่าง Instagram , TikTok และ Facebook ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางโฆษณาเท่านั้น แต่เป็นเหมือนหน้าร้านที่สองของคุณ หากสื่อสารกับลูกค้าด้วยความจริงใจ อัปเดทเรื่องราวของร้านอยู่เสมอ โอกาสที่จะมีฐานลูกค้าประจำก็เป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนี้การเข้าร่วมกับแพลตฟอร์ม Food Delivery ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มยอดขายและเป็นการปรับตัวให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

• เทรนด์รักสิ่งแวดล้อม 

นี่คือเทรนด์ที่เริ่มมาหลายปีแล้ว และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ หากคุณเป็นร้านกาแฟที่เน้นลดการใช้พลาสติก เลือกใช้บรรจุพันธ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็จะเป็นอีกสิ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มรักสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

• เทรนด์มองหาประสบการณ์พิเศษ 

ในยุคที่อยากกินอาหารจากร้านก็ไม่จำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน เพราะมีร้านให้เลือกจากบริการ Food Delivery มากมาย ถ้าจะออกไปนั่งตามคาเฟ่หรือร้านกาแฟ ร้านนั้นก็ต้องมีอะไรพิเศษ ถ้าหาจุดเด่นของตัวเองเจอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอร่อย บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ กาแฟรสชาติเยี่ยม หรือแม้แต่บริการที่ประทับใจ เมื่อลูกค้าเห็นความโดดเด่นที่ร้านนำเสนอ โอกาสกลับมาใช้บริการซ้ำก็มีความเป็นไปได้มาก

• เทรนด์ที่มองหาความแตกต่าง

เมนูกาแฟแบบเดิมยังคงขายได้ แต่ก็จะมีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการลองกาแฟเมนูใหม่ ๆ หากมีความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นร้านควรนำเสนอเมนูใหม่ควบคู่กับเมนูพื้นฐานที่โดดเด่นเรื่องรสชาติก็จะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

แม้ว่าปี 2025 ประเทศไทยและโลกจะเจอปัญหามากมายอย่างรอบด้าน แต่โอกาสทางธุรกิจยังคงเป็นของคนที่พร้อมเริ่มต้น ขอเพียงหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอและมุ่งมั่นทำสิ่งนั้น ที่สำคัญคือมีความจริงใจที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและพร้อมปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภค เพียงเท่านี้ร้านกาแฟที่เปิดใหม่ก็จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน