วิธีขับรถเกียร์ออโต้ยังไงให้ถูกต้อง มือใหม่หัดขับห้ามพลาด!

Key Takeaways

  • วิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วยยืดอายุการใช้งานชุดเกียร์ได้เป็นอย่างดี โดยรถเกียร์ออโต้ถือเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยมสูง เพราะขับขี่ง่ายกว่าเกียร์ธรรมดา ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์และแบบ CVT
  • การขับรถเกียร์ออโต้ที่ดี ส่วนมากจะเป็นเรื่องเลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น สตาร์ทรถทุกครั้งต้องเข้าเกียร์ P, ควรเข้าเกียร์ N เสมอ หากรถติดมาก ๆ และขับรถลงเขาไม่ควรเข้าเกียร์ N เป็นต้น

มือใหม่หัดขับที่เพิ่งซื้อรถและเพิ่งเริ่มขับรถใหม่ ๆ อาจจะยังไม่ค่อยรู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ดีและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น ตอนจอดรถในลานจอดตามห้าง ตอนอยู่บนถนนที่รถติดมาก ๆ รวมถึงตอนขับรถขึ้นและลงเขาหรือทางที่ลาดชันมาก ๆ วันนี้ TPIS เลยรวบรวมเทคนิคการขับรถเกียร์ออโต้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยถนอมและรักษาเครื่องยนต์ รวมถึงเกียร์ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ 

เกียร์ออโต้ คืออะไร?

เกียร์ออโต้
ภาพ: เกียร์ออโต้

ระบบเกียร์ออโต้ในรถยนต์ถือเป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะขับง่ายกว่าเกียร์ธรรมดา โดยเกียร์ออโต้ คือ เกียร์ที่มีระบบประจำตัวที่คอยทำหน้าที่เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้สอดคล้องกับน้ำหนักและความเร็วของรถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

  • ระบบเกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ คือ ระบบที่ใช้คอนเวอร์เตอร์และน้ำมันเพื่อส่งถ่ายกำลัง ซึ่งมีโอกาสที่จะสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ได้มากกว่า แต่ในปัจจุบันระบบเกียร์นี้ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนไม่ได้ส่งผลกระทบกับกำลังเครื่องยนต์มากเหมือนเมื่อก่อน
  • ระบบเกียร์แบบ CVT คือ การเปลี่ยนอัตราทดแบบต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลกว่าที่เคย ทำให้ไม่มีอาการกระตุก ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และสามารถรักษารอบของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

10 วิธีขับรถเกียร์ออโต้ยังไงให้ถูกต้อง ช่วยยืดอายุเกียร์ได้

การสตาร์ทรถ
ภาพ: การสตาร์ทรถ

1. สตาร์ทรถทุกครั้งต้องเข้าเกียร์ P

ถ้าอยากถนอมเกียร์และเครื่องยนต์ให้เกิดการสั่นสะเทือนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลาสตาร์ทรถยนต์จะต้องเข้าเป็นเกียร์ P เอาไว้ แต่ต้องระวังไม่ให้เกียร์ไปคร่อมอยู่ระหว่าง เกียร์ P กับ เกียร์ R เพราะมีโอกาสที่ตอนสตาร์ทรถ เกียร์จะลั่นไปอยู่ที่เกียร์ R ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้

2. เวลาจอดรถต้องเข้าเกียร์ให้เหมาะสม

เป็นเทคนิคที่คนขับรถในเมืองต้องรู้ เพราะต้องเอาไว้ใช้เวลาที่ต้องไปจอดรถตามห้างที่รถค่อนข้างเยอะ ซึ่งถ้าวันไหนเราได้ที่จอดแบบปกติก็สามารถเข้าเกียร์ P พร้อมดึงเบรกมือได้เลย เพื่อทำให้รถจอดสนิทที่สุด แต่ถ้าวันไหนเราต้องจอดแบบซ้อนคัน จะต้องเข้าเกียร์ N และปลดเบรกมือ เพื่อให้คนอื่น ๆ เลื่อนรถของเราได้

การจราจรติดขัด
ภาพ: การจราจรติดขัด

3. ควรเข้าเกียร์ N เสมอ หากรถติดมาก ๆ

เวลาเจอรถติดนาน ๆ หลายคนชอบเข้าเกียร์ D ไปพร้อม ๆ กับการเหยียบเบรก ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ชุดเกียร์ทำงานหนักและเสื่อมสภาพไว ดังนั้น หากเจอสถานการณ์รถติดนาน ๆ แนะนำให้เข้าเกียร์ N ใส่เบรกมือ และปล่อยเบรก เพื่อเป็นการถนอมเกียร์และช่วยให้รถไม่ไหลนั่นเอง

4. จอดรถบนทางชันต้องใช้เบรกมือ

เวลาไปต่างจังหวัดที่ต้องขึ้นเขาลงห้วย อาจมีบางโอกาสที่เราต้องจอดรถบนทางลาดชัน ซึ่งมือใหม่หัดขับหลายคนอาจไม่รู้ว่าการจอดบนทางลาดชัน แล้วเข้าเกียร์ P ไว้อย่างเดียว จะทำให้สลักเกียร์รับน้ำหนักมากเกินไป ดังนั้น จึงควรใช้เบรกมือคู่กับการเข้าเกียร์ P เพื่อรักษาเกียร์พร้อมช่วยป้องกันไม่ให้รถไหล

การถอยรถ
ภาพ: การถอยรถ

5. เวลาจะเข้าเกียร์ R ควรรอให้รถหยุดนิ่งก่อน

สำหรับใครที่อยากรักษาเครื่องยนต์และระบบเกียร์ของรถตัวเองไม่ให้เสื่อมสภาพไว เวลาต้องการถอยหลังหรือถอยรถเข้าซอง จะต้องรอจังหวะให้รถหยุดนิ่งเสียก่อน แล้วจึงค่อยเข้าเกียร์ R เพื่อป้องกันการกระชากและช่วยถนอมสายพาน ลูกปืน และชุดเฟืองต่าง ๆ ได้นั่นเอง

6. ขับรถขึ้นเขาต้องเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสม

ใครจะขับรถไปเที่ยวเหนือหรือจังหวัดที่ต้องขึ้นเขาหรือมีทางโค้งเยอะ ๆ ก็ต้องไม่ลืมเปลี่ยนระดับของเกียร์ให้เหมาะสมด้วย เพื่อเพิ่มแรงขับเคลื่อน พร้อมช่วยพยุงตัวรถเอาไว้

  • เกียร์ 3 ใช้สำหรับถนนที่มีความลาดชันน้อย อย่างการขึ้นสะพาน
  • เกียร์ 2 ใช้สำหรับถนนที่มีความลาดชันไม่มาก อย่างการขึ้นลานจอดรถบนห้าง
  • เกียร์ 1 (เกียร์ต่ำ หรือ เกียร์ L) ใช้สำหรับถนนที่มีความลาดชันมาก อย่างการขึ้นเขา

การขับรถลงเขา
ภาพ: การขับรถลงเขา

7. ขับรถลงเขาไม่ควรเข้าเกียร์ N

บางคนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าเวลาขับรถลงเขาจะต้องใช้เกียร์ N เพื่อไม่ให้รถพุ่ง แต่จริง ๆ แล้วจะต้องใช้เกียร์ D ในกรณีที่ทางไม่ชันมาก เพื่อให้คนขับสามารถควบคุมรถได้ แต่ถ้าดันขับไปเจอทางลงที่ชันมาก ๆ จะต้องใช้เกียร์ 3 เกียร์ 2 หรือเกียร์ 1 เพื่อทำให้รถมีความหน่วงและไม่ไหลลงเขานั่นเอง

8. หากไม่จำเป็นไม่ควรคิกดาวน์

คนขับบางคนชอบเหยียบคันเร่งจนเกือบมิด หรือที่หลายคนเรียกว่าการคิกดาวน์ เพื่อเพิ่มความเร็วและเร่งแซงรถคันอื่น ๆ ซึ่งการคิกดาวน์แบบนี้จะทำให้ชุดเกียร์ได้รับแรงบิดแบบกะทันหัน ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหาย และทำให้ระบบเกียร์มีอายุการใช้งานที่สั้นลงนั่นเอง

การเปลี่ยนเกียร์
ภาพ: การเปลี่ยนเกียร์

9. ก่อนเปลี่ยนเกียร์อย่าลืมเหยียบเบรก

การเหยียบเบรกก่อนการเปลี่ยนเกียร์อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากวุ่นวาย แต่ถือเป็นการช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานชุดเฟืองเกียร์ได้ดีมาก ๆ เพราะการเหยียบเบรกจะช่วยให้เกียร์ไม่โดนกระชาก แถมยังช่วยให้ระบบสามารถส่งกำลังได้แบบเต็มที่อีกด้วย   

10. ตรวจสภาพน้ำมันเกียร์อยู่เสมอ

ถ้าไม่อยากให้ชุดเกียร์สึกหรอไวต้องหมั่นตรวจสภาพน้ำมันเกียร์อยู่เสมอ ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ หากน้ำมันเกียร์เริ่มมีความขุ่นหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือดำ แสดงว่าได้ฤกษ์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้ว ซึ่งโดยปกติควรเปลี่ยนปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการถนอมชุดเกียร์ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จะสำคัญแล้ว การซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ติดรถไว้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้และไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่ตราบใดที่เรายังมีประกันรถยนต์ชั้น 1 คอยคุ้มครอง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าซ่อมรถที่จะตามมา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น

ข้อดีของระบบเกียร์ออโต้ มีอะไรบ้าง?

การขับรถเกียร์ออโต้
ภาพ: การขับรถเกียร์ออโต้
  • ขับง่ายกว่าเกียร์ธรรมดา โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ เนื่องจากไม่ต้องอาศัยสกิลการเลี้ยงครัชหรือเปลี่ยนเกียร์ให้วุ่นวาย
  • ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ตามความเร็ว เพราะระบบเกียร์ออโต้จะช่วยคำนวณอัตราเร่งของรอบความเร็วให้เอง คนขับจึงไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ให้ยุ่งยาก
  • ช่วยประหยัดน้ำมันได้ โดยเฉพาะในเมืองที่รถติดมาก ๆ เพราะถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาจะต้องเลี้ยงคลัทช์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแบบสุด ๆ แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องยนต์ดับอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีขับรถเกียร์ออโต้ยังไงให้ถูกต้องที่มือใหม่หัดขับไม่ควรพลาด ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ พร้อมเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนใครที่สนใจสมัครหรือต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ยังต้องการสอบถามเบี้ยประกัน รวมถึงรายละเอียดความคุ้มครองทั้งหมด ก็สามารถให้ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิสเป็นผู้ดูแลในการเลือกแบบประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจคุณมากที่สุด เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้

สนใจซื้อประกันภัยรถยนต์ แจ้งข้อมูลเพื่อให้บริษัท ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส จำกัด ติดต่อกลับ

TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์

เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณได้บริษัทประกันที่ตรงใจพร้อมแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ อย่างประกันภัยรถยนต์ แถมยังมีโปรโมชันผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน* สนใจสมัครประกันกับตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิส สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

*ผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ