ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากทำประกันชีวิต

เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน ชีวิตเราต้องเจอกับความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง ทั้งในด้านสุขภาพ หน้าที่การงาน ไปจนถึงความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ หลายคนจึงมองหาตัวช่วยเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต คนส่วนใหญ่เริ่มมองหาการลงทุน แต่การลงทุนหลายอย่างก็มีความเสี่ยงสูงมากจนยากที่จะรับได้ หนึ่งในการลงทุนที่ดีทั้งกับตัวคุณเอง คนในครอบครัว ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยมากก็คือการทำประกันชีวิต แม้ว่าประกันชีวิตจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่ทุกแบบประกันมีเหมือนกันคือเงื่อนไขที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าคุณจะได้อะไรบ้าง จึงเป็นการลงทุนที่สามารถประเมินได้ตั้งแต่ต้นถึงความคุ้มค่า อย่างไรก็ตามสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะทำประกันเป็นครั้งแรกก็มีเรื่องให้ต้องพิจารณาอยู่บ้างเหมือนกัน

ประโยชน์ที่จะได้จากการทำประกันชีวิต

1. สร้างวินัยในการออมเงิน

นี่คือประโยชน์อย่างแรกที่จะได้รับ ทุกคนรู้ว่าควรออมเงิน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ซึ่งการชำระเบี้ยประกันในทุกเดือนหรือทุกปี คือการบังคับให้เราต้องออมเงินอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีวินัยในการออมเงินด้วยตนเอง

2. ได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต

จุดประสงค์หลักของประกันชีวิตคือการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต โดยเงินก้อนนี้สามารถนำไปใช้ดูแลครอบครัว ชำระหนี้สิน หรือแม้แต่ใช้เป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน ประกันชีวิตจึงเป็นอีกวิธีในการเพิ่มความอุ่นใจให้ครอบครัว เพราะจะทำให้ครอบครัวรู้ว่าแม้คุณจะไม่อยู่ แต่ครอบครัวก็ยังมีทุนตั้งต้นให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้

3. ช่วยวางแผนทางการเงินระยะยาว 

ประกันชีวิตบางประเภท เช่น แบบสะสมทรัพย์ หรือแบบบำนาญ สามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงิน โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เงินหลังจากครบอายุสัญญา เงินคืนระหว่างสัญญา หรือเงินรายได้หลังเกษียณ การทำประกันชีวิตจึงเป็นอีกวิธีที่เหมาะสำหรับการวางแผนเกษียณอายุ

4. ได้ลดหย่อนภาษี 

การทำประกันชีวิตสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย โดยประกันชีวิตแบบทั่วไปสามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี ส่วนถ้าเป็นประกันชีวิตแบบบำนาญ จะสามารถลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี (สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท) ถือเป็นอีกวิธีในการวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ

 

สนใจอยากทำประกันชีวิต ต้องรู้อะไรบ้าง

นี่คือเรื่องสำคัญสำหรับมือใหม่ เพราะการทำประกันชีวิตครั้งแรกมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอยู่มากพอสมควร ซึ่งอันดับแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือประเภทของประกันชีวิต เพื่อให้เลือกซื้อประกันได้ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด และต่อไปนี้คือความแตกต่างของประกันแต่ละประเภท

• ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ให้ความคุ้มครองจนเสียชีวิตหรือตามอายุสูงสุดที่ระบุไว้ในสัญญา (ส่วนใหญ่จะกำหนดอายุสูงสุดไว้ที่ 90-99 ปี) ประกันประเภทนี้เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างมรดกไว้ให้ลูกหลาน เพราะการันตีว่ามีเงินก้อนให้ผู้รับผลประโยชน์หลังเสียชีวิตอย่างแน่นอน

• ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ มีลักษณะคล้ายประกันชีวิตตลอดชีพ แต่จะกำหนดอายุสัญญาไว้อย่างชัดเจน (เช่น 20 ปี) หากเสียชีวิตในระหว่างอายุสัญญา ก็จะมีเงินก้อนให้ลูกหลาน แต่ถ้าอยู่จนครบอายุสัญญา ก็จะได้รับเงินคืนทั้งหมดตามเงื่อนไขในกรมธรรม์  

• ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา จะให้ความคุ้มครองแค่ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น และจะไม่มีเงินคืนให้เมื่อครบอายุสัญญา แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณขณะอยู่ในอายุสัญญา ก็จะได้รับสินไหมทดแทนตามที่ระบุในกรมธรรม์ จุดเด่นคือค่าเบี้ยประกันถูกกว่าแบบอื่น ๆ และเหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น 

• ประกันชีวิตแบบบำนาญ เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนเกษียณ เพราะผลตอบแทนของประกันจะถูกแบ่งเป็นเงินจ่ายคืนหลังเกษียณเป็นรายเดือนจนถึงอายุ 85 หรือ 90 ปี ตามที่ระบุในกรมธรรม์ 

• ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit-Linked) เป็นแผนประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง เบี้ยประกันส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุน แม้ว่าจะเป็นแผนประกันที่มีความเสี่ยงสูงกว่าประเภทอื่น แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนในขั้นสุดท้ายที่สูงกว่า เหมาะกับคนที่อยากลงทุนแต่ก็ยังคงต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิตด้วย

อันดับแรก ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าความต้องการของเราคืออะไร เพราะความต้องการจะช่วยกำหนดว่าเราเหมาะกับประกันประเภทไหน เช่น หากต้องการผลตอบแทนสูงและรองรับความเสี่ยงได้ แต่ก็ยังคงอยากได้ความคุ้มครองแบบประกันชีวิต ประกันที่เหมาะกับคุณก็คือประกันชีวิตควบการลงทุน หรือหากต้องการวางแผนเกษียณ ก็ต้องเลือกทำประกันบำนาญ 

แผนประกันที่ดี ต้องมาพร้อมกับการประเมินความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันของตัวเองด้วย เพราะถ้าจ่ายเบี้ยไม่ไหวระหว่างอายุสัญญา แทนที่จะได้รับความคุ้มครอง การทำประกันก็จะกลายเป็นปัญหา ในที่สุดก็จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ที่ควรได้

เมื่อรู้ความต้องการและความสามารถในการจ่ายเบี้ยแล้ว สิ่งสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้ามก่อนตัดสินใจทำประกันก็คือการเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจเลือก เพราะบางครั้งด้วยความคุ้มครองที่ไม่ต่างกัน แต่บางบริษัทอาจมีโปรโมชั่นที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุ้มกว่า อีกทั้งปัจจุบันเราสามารถทำการเปรียบเทียบเบี้ยประกันที่สนใจผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยให้การตัดสินใจซื้อประกันนั้นง่ายขึ้นมาก

ทุกคนคงเห็นแล้วว่าการทำประกันชีวิตให้ประโยชน์อย่างมากมาย ตั้งแต่ประโยชน์ในปัจจุบันอย่างเรื่องภาษีไปจนถึงการมีมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งการทำประกันทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะแทบทุกบริษัทให้คุณซื้อประกันได้แบบออนไลน์ เมื่อการทำประกันจัดเป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต คุณควรมองหาประกันชีวิตที่เหมาะกับตัวเองตั้งแต่วันนี้

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ