ข้อควรรู้! กฎหมายควบคุมการเลี้ยงสัตว์ สุนัข แมว บทลงโทษ มีอะไรบ้าง

โดยธรรมชาติสุนัขและแมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความน่ารัก ซุกซน ทำให้คนเลี้ยงยิ้มได้เสมอ สัตว์เลี้ยงอาจสร้างความน่ารักให้กับเจ้าของ แต่สำหรับบางคนแล้วพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้อาจสร้างความรำคาญ หรือแม้กระทั่งเป็นอันตรายได้หากเจ้าของขาดการดูแล ให้ความรักและเอาใจใส่ การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงจึงต้องมีความรับผิดชอบร่วมต่อคนรอบข้างเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเพื่อนบ้านหรือสังคมโดยรวม เช่น การไม่ปล่อยสัตว์ให้ออกไปเห่า กัด หรือถ่ายในที่สาธารณะโดยไม่มีการจัดการดูแล หรือพาไปในสถานที่ที่ไม่อนุญาต เช่น ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , ร้านอาหาร เป็นต้น เพราะหากสัตว์เลี้ยงก่ออันตรายหรือสร้างความเสียหาย ผู้ได้รับผลกระทบมีสิทธิ์ดำเนินการทางกฎหมายได้

1. กรณีสัตว์เลี้ยงก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น 

หากสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข วิ่งไล่กัดผู้อื่น หรือวิ่งตัดหน้ารถจนเกิดอุบัติเหตุ อาจเข้าข่ายความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 ซึ่งระบุว่า

“หากเจ้าของปล่อยให้สัตว์ดุหรือสัตว์อันตรายเดินเพ่นพ่านโดยไม่มีการควบคุม จนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

2. กรณีสัตว์เลี้ยงสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน

เช่น ขับถ่ายในเขตบ้านคนอื่น กัดเฟอร์นิเจอร์ หรือทำให้ของเสียหาย กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ระบุไว้ชัดว่า 

“เจ้าของหรือผู้ที่ดูแลสัตว์ในขณะนั้นจะต้องรับผิดในการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำของสัตว์นั้น”

3. กรณีสัตว์เลี้ยงสร้างความรำคาญ

ไม่ว่าจะเป็นเสียงเห่าหอนยามค่ำคืน หรือกลิ่นเหม็นจากมูลสัตว์ กฎหมายอาญา มาตรา 397 กล่าวไว้ว่า 

“หากผู้ใดกระทำการใด ๆ ที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกรำคาญ อับอาย หรือได้รับความเดือดร้อน จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท”

นอกจากกฎหมายที่ใช้ควบคุมและลงโทษเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของตนเองสร้างความเดือดร้อนรำคาญและเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นแล้ว ยังมีกฎหมายควบคุมการทิ้ง การทำร้ายสัตว์เลี้ยง ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์พ.ศ. 2557 ระบุไว้ว่า

มาตรา 23 ห้ามเจ้าของปล่อยหรือทิ้งสัตว์เลี้ยงให้พ้นจากการดูแลของตน เว้นแต่มีการโอนความรับผิดชอบให้ผู้อื่นอย่างถูกต้อง หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุดถึง 40,000 บาท  

หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงอีกต่อไปได้ ควรมองหาคนที่พร้อมจะดูแลแทน ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อย เพราะนอกจากจะเป็นภาระต่อสังคมแล้ว ยังเป็นการทำร้ายจิตใจสัตว์เลี้ยงอีกด้วย หากทุกคนตระหนักและมีความรับผิดชอบร่วมกัน ปัญหาสัตว์จรจัดจะลดลงได้อย่างแน่นอน

สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ.2567 เพื่อควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยงและสัตว์จร ป้องกันโรค และลดผลกระทบต่อสังคม ออกมาเพิ่มซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ข้อบัญญัตินี้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงและผู้ที่คิดกำลังจะเลี้ยงสัตว์มีดังนี้ 

กำหนดพื้นที่ห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์

ห้ามเลี้ยงสัตว์ลูกด้วยนม, สัตว์ปีก, สัตว์น้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, สัตว์มีพิษหรือดุร้าย ในพื้นที่สาธารณะ (ยกเว้นตามข้อกำหนดพิเศษ)

จำนวนสัตว์เลี้ยงต่อพื้นที่ (ที่เอกชน)

  • โค , กระบือ , ม้า ฯลฯ เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อ 50 ตร.วา
  • แพะ , แกะ , สุกร ฯลฯ เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว ต่อ 50 ตร.วา
  • ไก่ , เป็ด , ห่าน เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อ 4 ตร.ม.
  • นกใหญ่ เลี้ยงได้ ไม่เกิน 1 ตัว ต่อ 50 ตร.ม.
  • นกเล็ก เลี้ยงได้ ไม่เกิน 5 ตัว ต่อ 1 ตร.ม.

การเลี้ยงสุนัข-แมวในที่พักอาศัย

  • คอนโด/ห้องเช่า พื้นที่ 20–80 ตร.ม. เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว
  • คอนโด/ห้องเช่า พื้นที่ >80 ตร.ม. เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว
  • บ้านพื้นที่ <20 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว
  • บ้านพื้นที่ 20–50 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว
  • บ้านพื้นที่ 50–100 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว
  • บ้านพื้นที่ >100 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว

หน้าที่เจ้าของสัตว์เลี้ยง

  • ต้องดูแลความสะอาด ความปลอดภัยและไม่รบกวนผู้อื่น
  • ห้ามปล่อยสัตว์เดินเพ่นพ่าน
  • ห้ามปล่อยสัตว์เลี้ยงในที่ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ต้องจัดการขับถ่ายในที่สาธารณะทันที
  • เมื่อสัตว์เลี้ยงตายต้องกำจัดซากให้ถูกสุขลักษณะ

ข้อกำหนดเฉพาะสุนัข-แมว

  • ต้อง ฝังไมโครชิป จดทะเบียนและมีบัตรประจำตัว ภายใน 120 วันหลังเกิด หรือ 30 วันหลังรับมาเลี้ยงในเขต กทม.
  • การพาออกนอกบ้านต้องใส่สายจูง/กรง/กระเป๋า และแสดงบัตรเมื่อมีการขอตรวจ
  • สุนัขดุร้าย/พันธุ์พิเศษ ต้องใส่ครอบปากและห้ามเด็ก <15 ปี หรือผู้สูงอายุ >65 ปีพาออกนอกบ้าน

โทษกรณีฝ่าฝืน

  • มีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
  • กทม.มีอำนาจจับสัตว์ที่ถูกปล่อยในที่สาธารณะโดยไม่มีเจ้าของ

ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากกฎหมายและข้อบัญญัตินี้

  • เพื่อลดปัญหาสัตว์จรจัด
  • ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
  • สามารถระบุตัวเจ้าของสัตว์ได้ง่ายเมื่อเกิดปัญหา
  • ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงและสังคม
  • มีคนที่รักสัตว์เลี้ยงจริงและไม่มีการนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยทิ้งตามวัดหรือสถานที่อื่น ๆ ให้เป็นภาระแก่ผู้อื่น

หากพบเห็นการทารุณสัตว์หรือทิ้งสัตว์ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหรือพื้นที่

  • แอปพลิเคชัน DLD 4.0 ปศุสัตว์ไทย
  • สายด่วนกรมปศุสัตว์ 02-653-4444

การเลี้ยงสัตว์คือความรับผิดชอบที่ต้องคำนึงถึงทั้งสวัสดิภาพของสัตว์และผลกระทบต่อสังคม การปฏิบัติตามกฎหมายและแสดงความรับผิดชอบจะช่วยสร้างความสมดุลระหว่างคนรักสัตว์และชุมชนโดยรอบได้

บทความ ประกันสัตว์เลี้ยง