ประกันสุขภาพแบบไหนเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยป่วย

ประกันสุขภาพแบบไหนเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยป่วย

ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมีอัตราค่อนข้างสูง ทั้งยังเสี่ยงต่อสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดภาวะโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ง่าย ประกันสุขภาพจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเผชิญกับความเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งยังช่วยให้เข้าถึงและมีทางเลือกในการรักษามากขึ้น สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและต้องการซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แต่ก็ไม่อยากจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงจนเกินไปนัก ความต้องการแบบนี้จะมีประกันสุขภาพแบบใดที่คุ้มค่าน่าสนใจบ้าง

วิธีหาความคุ้มครองขั้นต่ำ

การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงนับเป็นเรื่องดีที่จะมีประกันสุขภาพมาช่วยคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่ค่อยป่วยไข้ก็ตาม สำหรับคนที่กำลังมองหาความคุ้มครองขั้นต่ำนั้น เบื้องต้นให้ลองเช็คสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่มีอยู่ อาทิ บัตรทอง , ประกันสังคม , ประกันสุขภาพแบบกลุ่มขององค์กรที่ทำงาน ตลอดจนประกันสุขภาพที่ยังมีผลบังคับใช้ จากนั้นตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลหลักที่ใช้บริการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลโรคทั่วไป โรคร้ายแรง และค่าห้อง เพื่อที่จะประเมินค่าใช้จ่าย แล้วนำค่าใช้จ่ายที่ประเมินได้จากโรงพยาบาลไปหักลบกับสวัสดิการสุขภาพที่มีอยู่จะได้เป็นส่วนต่างที่ยังขาด ซึ่งส่วนต่างนี้เองที่ช่วยให้ทราบว่าควรทำประกันสุขภาพในวงเงินขั้นต่ำเท่าใดเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาค่าเบี้ยประกันที่สามารถจ่ายได้ในระยะยาวประกอบกันไปด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วค่าเบี้ยประกันสุขภาพควรอยู่ที่ 10% ของรายได้ต่อปี

วิธีเลือกค่าเบี้ยประกันต่ำแต่ครอบคลุมกรณีสำคัญ

ประกันสุขภาพถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองหลายกรณี อาทิ

  • กรณีผู้ป่วยใน หรือ IPD เน้นให้ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยแล้วต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยจะได้รับการดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากบริษัทประกัน เช่น ค่าห้องพัก , ค่าอาหาร , ค่าตรวจรักษา , ค่าปรึกษาแพทย์ , ค่ายา , ค่าบริการห้องผ่าตัด เป็นต้น
  • กรณีผู้ป่วยนอก หรือ OPD เน้นให้ความคุ้มครองเมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยกว่า 6 ชั่วโมง หรือไม่ต้องนอนพักค้างคืน หรือไม่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์แบบเฉพาะโรค ซึ่งอาจเป็นการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยบริษัทประกันจะดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าตรวจรักษา , ค่ายา , ค่าบริการต่าง ๆ เป็นต้น
  • กรณีโรคร้ายแรง เน้นให้ความคุ้มครองเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เช่น โรคมะเร็ง , โรคหัวใจ , เส้นเลือดในสมอง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูง โดยเมื่อตรวจพบโรคแล้วบริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายนี้ เบี้ยประกันโรคร้ายแรงไม่สูงเมื่อเทียบกับสิทธิประโยชน์ที่พึงจะได้รับซึ่งผู้ที่มีงบจำกัดก็สามารถซื้อได้ ประกันโรคร้ายแรงจึงเป็นประกันสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามไม่ว่าจะป่วยบ่อยหรือไม่ก็ตาม
  • กรณีเกิดอุบัติเหตุ เน้นให้ความคุ้มครองเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยบริษัทประกันจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตด้วย ประกันอุบัติเหตุจ่ายค่าเบี้ยไม่สูงทั้งยังให้การคุ้มครองทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกรมธรรม์ที่น่าสนใจแม้จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง นั่นเพราะว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
  • กรณีการชดเชยรายได้ เน้นให้ความคุ้มครองด้านการชดเชยรายได้เมื่อต้องนอนพักรักษาตัวอันเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุซึ่งทำให้ขาดรายได้ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้ภายใต้เงื่อนไขสัญญากำหนด

ดังนั้นหากเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยง่าย และต้องการกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่จ่ายค่าเบี้ยประกันไม่มากแต่ยังให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมกรณีสำคัญ เบื้องต้นขอแนะนำให้เลือกประกันโรคร้ายแรง และประกันอุบัติเหตุ จากนั้นหากยังพอมีงบประมาณเหลืออาจพิจารณาซื้อประกัน IPD เพิ่มเพื่อคุ้มครองกรณีที่ป่วยไข้ต้องนอนพักรักษาตัวซึ่งสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมจากสวัสดิการที่มีอยู่ได้

สุขภาพแข็งแรง

วิธีเปรียบเทียบประกันสุขภาพแบบพื้นฐาน

บัตรทอง หรือบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า

  • สิทธิประโยชน์
  • เข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับยาได้จากร้านยาใกล้บ้านที่ร่วมโครงการ และคลินิกการพยาบาลตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 อาการ ตลอดจนคลินิกเวชกรรมตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอก คลินิกเทคนิคการแพทย์ บริการตรวจแล็บตามใบสั่งแพทย์ ตรวจคัดกรองโรค คลินิกทันตกรรม และคลินิกแพทย์แผนไทย
  • ข้อจำกัด
  • เนื่องจากเป็นสวัสดิการสุขภาพขั้นพื้นฐานจากทางภาครัฐจึงอาจล่าช้า ไม่สะดวกสบาย และมีหลายขั้นตอนในการรับบริการ

ประกันสังคม

  • สิทธิประโยชน์
  • คุ้มครองดูแลค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องจากป่วยไข้ไม่สบาย และอุบัติเหตุ ตลอดจนกรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต รวมทั้งกรณีคลอดบุตร
  • ข้อจำกัด
  • โรงพยาบาลที่เข้าระบบประกันสังคมมีค่อนข้างจำกัด และสามารถใช้สิทธิประโยชน์ที่ต้องการได้จากสถานพยาบาลที่แจ้งสิทธิ์ไว้เท่านั้น

ประกันสุขภาพ/ประกันอุบัติเหตุ สวัสดิการด้านสุขภาพจากที่ทำงาน

  • สิทธิประโยชน์
  • รายละเอียดการคุ้มครองดูแลแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละองค์กร
  • ข้อจำกัด
  • ได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะช่วงเวลาที่ยังทำงานอยู่ในองค์กรเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าประกันสุขภาพแบบพื้นฐานเข้าถึงการรักษาและมีทางเลือกน้อยกว่าสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับจากการซื้อกรมธรรม์ส่วนตัว อย่าลืมว่ายุคนี้ไม่มีอะไรคุ้มค่าไปกว่าการลงทุนเพื่อสุขภาพ

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสามารถเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ทุกเมื่อแม้จะมีร่างกายแข็งแรงก็ตาม ประกันสุขภาพยังคงเป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยรองรับความเสี่ยงนั้นให้เราได้อุ่นใจว่ามีกรมธรรม์ประกันภัยช่วยดูแล

ถ้าคิดถึงเรื่องประกัน TPIS ตรีเพชรอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ประกันภัย เป็นที่ปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันด้านสุขภาพ